วันพฤหัสบดีที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

To get accustom to the Thai way of calculation in gold weight

Many persons know the term of "Baht" as the denomination of Thailand currency but in the gold society it will mean the standard unit weigth that every person in this kingdom used to. It has been used nationwide the same as "Tola" that is used in India and "Tael" that is used in the Chinese society. One Baht weight has two values and it is equal to 15.16 grams when it is referred to the weight of the gold chain or the gold ornament. The other value is 15.244 grams when it is referred to the weight of the gold bullion or gold bar.
The international unit weight that is used widely is " Troy Ounce ". One troy ounce is equal to 31.11 grams so one troy ounce is approximately a little bit over 2 Baht weights. Most of the price in the international market will be quoted in troy ounce and the currency is U.S.Dollar. So when we find out the current market price, we have to check with the currency exchange at the Bank of Thailand.
Then it is time to show how to convert the world market price into the Thai gold price. Since Thailand has the standard purity of gold at 96.5% then we have to take this number into consideration. Let suppose that the world market gold price is U.S.$1000.00 then the Thai gold price is 1000x33.5(the exchange rate of U.S.$1.00) divide with 31.11 and then time it with 15.244 then the answer is 16415. Which we can assume that the local price should be announced at 16500/16400 per baht wt. But it can be a little difference depend on the other factors which may occur but the price will not vary much from this. Thank you for reading this and I hope that it will be useful.

วันพุธที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

To invest in Gold Bullion or in Gold Mine stock....

A couple days ago, I had a conversation with one of my friends. He had received the wrong information about how to invest in the pricious metal known as Gold. His stock broker advised him that it was a very good time to invest in Gold Mine because of the rise in gold price. I want to give information to everyone who visited this blog the truth that I learned from the banker, a friend of mine.
When one person comes to see the bank and asking for a loan to open up a gold mine, he needs to have the proof that there is a potential site which is the geological map or the satellite photograph. The bank will have to verify this proof and then gives this person the loan with the collateral that how many gold bullion needed to pay for the interest and covers up the first investment. Then this person will take this loan and goes to the commodity market to ask for the permission to sell forward the gold that he will dig them up in the future to raise cash. The gold miner has to open up the site and set up the refinery which costs him a fortune. As you can see that the gold mine will have a huge debt before it starts the operation.
The stock broker advised my friend to buy the gold mine stock because he wants his commission. If my friend decides to buy the bullion instead, he will definitely make money and will not subject to any risk. Thank you everyone for reading this.

วันอังคารที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

How to invest in Gold Bullion in Thailand?

Thailand is a best place for investors to be a gold speculative. The tax system is very in favor to the investors. The rate of VAT(value added tax or the other word the sales tax) is 0%. Since the year 2001, the Thai government had considered Gold Bullion as one kind of money. Since we can not tax on money so the gold was exempted. But we have to pay for the income tax at the end of the year at the rate of 25% but that is after all your expense deduction. It is quite fair and very encouraging.
Thailand has two kind of gold bullion, one is the local bullion with the unit weight started at 5 Baht wt.(76.22 gram),10 Baht wt(152.44 gram) and the combination of 10 Baht wt.up. This local bullion has the purity of 96.5% and the reason why Thais prefered this purity because the gold can be fabricated into chains and ornaments with durability. The other kind of bullion is the international gold bar with the weight of 1.000 Kilogram and has the purity of 999.9%. This latter kind is the bar that most of the gold shop traded in order to hedge or to speculate the gold price.
Many people had asked me when will be the best time to buy gold. I will tell them that if the gold price is not at its peak at that time then you are quite confident to make the purchase. I have tracked the record of the movement of the gold price and I had seen the real interesting pattern in the graph. The gold price will try to reach its peak and make a new record high. For the past few months, the record price is at U.S.$ 1020.00 per troy ounce. So as long as the price of gold is below is level then you are safe to make the investment. Also the other interesting question is why the gold moved so much in the past few years? I can definitely answer this with one short word.....China. Last year, Chinese government had opened the forward market of gold in Shanghai and because of this alone had boosted the price of gold from the level of U.S.$ 650 per troy ounce to this present level and the movement was so swift. Together with the increase of oil price, it helps boosted the gold price up and down like we never see before. So good luck everyone. Thailand is going to open the foward trade on gold in this coming September. I hope that all of you will benefit from this and have a very wealthy year.

การทำงานอยู่ในสมาคมค้าทองคำ

สมาคมค้าทองคำนี่เป็นสมาคมที่น่าสงสารมาก เพราะเป็นเวลากว่า10ปีที่สมาคมไม่มีที่ตั้งของสมาคม แต่ต้องอาศัยห้องประชุมของร้านทองต่างๆ ซึ่งส่วนมากจะใช้ที่ร้านทองจินฮั่วเฮงเป็นหลัก การประชุมจะเริ่มได้ก็ต้องรอบรรดาอาเสี่ยจากร้านต่างๆให้ปิดร้านกันก่อนถึงจะเปิดประชุมได้ และมีอยู่หลายครั้งที่มีปารประชุมไปกว่าค่อนทางแล้ว ปรากฎว่ามีร้านทองร้านหนึ่งเพิ่งจะเข้ามา ผลคือต้องเริ่มกันใหม่หมด เวลาที่จะมีการตัดสินใจในเรื่องใหญ่ๆบางเรื่อง อาทิ การปรับราคาทองรับคืน กว่าที่จะตกลงกันได้ทีหนึ่ง ต้องคุยกันยาวกว่า 2ชั่วโมง ทั้งๆที่ผลประโยชน์เป็นของพวกเราร้านทองแท้ๆ แต่ไม่รู้ว่าเกิดคิดอะไรกันขึ้นมา มีแต่คนค้านการเปลี่ยนแปลง มีการเคยยกเรื่องการที่ทองคำแท่งมีส่วนต่างกัน 100 บาทระหว่างราคาขายและซื้อเข้า ว่ามันใกล้เกินไป และควรจะต้องมีการถ่างส่วนต่างออกให้เป็น 200 บาท แต่เรื่องนี้พูดกันมาหลายครั้งและไม่เป็นผลสำเร็จเสียที เพราะว่ามีสมาชืกที่เป็นร้านขายส่งที่เขาขายทองคำแท่งค้านแบบหัวชนฝาเลย ผมก็เห็นด้วยนะ ที่ส่วนต่างควรจะต้องมีการปรับแล้ว เพราะว่าลูกค้าเองบอกกับผมว่า อะไรกัน ของอย่างอื่นเขาขึ้นราคาไปตั้งนานแล้ว ทำไมทองแท่งถึงทนอยู่ได้อย่างไร ตั้งแต่ราคา ทองบาทละ 3000 กว่าๆ ราคาเข้าออกก็ต่งกันอยู่ 100 บาทอยู่แล้ว และนี่ราคาทองขึ้นมาถึง บาทละ 14800 บาท ราคาก็ยังต่างอยู่แค่ 100 บาท ท่านทั้งหลายที่อยู่ในอุตสาหกรรมทองมีความคิดเห็นอย่างไร ช่วยกันแชร์ความคิดเห็นกันหน่อยครับ เพื่อปากท้องของพวกเราเองครับ

วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เรื่องเกี่ยวกับ Boarding School ที่อเมริกาครับ

โรงเรียนที่ผมจะเล่าให้เพื่อนๆฟังคือโรงเรียนที่เราเรียกว่า Boarding School หรือที่แปลตรงตัวว่า โรงเรียนกินนอนครับ แต่อีกชื่อหนึ่งที่เด็กนิยมเรียกกันคือ Prep School เป็นเสมือนโรงเรียนเตรียมอุดมของเมืองไทย แต่ที่นี่เขามีประวัติที่ยาวนานกว่ามาก และมหาวิทยาลัยดังๆในสหรัฐ จะให้เครดิตกับโรงเรียนเหล่านี้ คือหากเด็กสามารถที่จะเรียนได้ดี มีกิจกรรมเยี่ยม และได้การสนับสนุนจากอาจารย์แล้ว โอกาศที่จะได้รับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย top ten มีสูงมาก ทำไมผมถึงทราบหรือครับ ก็เพราะว่าลูกชายคนโต เขาสอบได้ทุนรัฐบาลแล้วทาง ก.พ.ก็บังคับเด็กทุนทุกคนให้ไปเรียนซ้ำชั้น ม.6 อีกหนึ่งปี แรกๆบรรดาเด็กๆก็มีปฏิกิริยากันทุกคน เพราะไม่มีใครอยากเรียนซ้ำชั้น แต่พอทราบถึงเหตุผล ทุกคนก็ยอมแล้วแต่ละคนก็ถูกส่งไปอยู่ตามโรงเรียน Boarding School แห่งละ 1 หรือ 2 คนเท่านั้น โรงเรียนที่ได้รับยกย่องว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดคือ
1 Phillip Academy, Andover
2 Choate Rosemary Hall
3 Phillip Exeter
4 Deerfield Academy

เอาแค่พอหอมปากหอมคอก่อนนะครับ จริงๆแล้วผมมี รายชื่ออยู่เป็นจำนวนมาก แต่โรงเรียนที่ผมเอ่ยชื่อมานี้ ล้วนแล้วแต่เป็นโรงเรียนที่บรรดาเด็กที่ได้ทุนเล่าเรียนหลวง หรือที่เราเรียกกันว่า ทุนคิงส์ จะมีเด็กจำนวน 9 คน คือจากแผนกวิทย์ 5 คน และจากแผนกศืลป์ 4 คน แหมแต่ขอออกตัวก่อนว่าลูกของผมไม่ได้เป็นหนึ่งในนี้หรอก โรงเรียนเหล่านี้ การที่จะได้เข้าไปเรียนนั้น ยากมาก เพราะว่าเขามีจำนวนจำกัด และสำหรับเด็กที่มีความฝันที่จะเข้าเรียนในมหาวืทยาลัย Harvard หรือ MIT จะต้องพยายามเต็มที่ที่จะเข้าไปเรียนในโรงเรียนเหล่านี้ ให้ได้ เพราะเหมือนกับการการันตีเลยว่า เมื่อจบก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเข้าไปเรียนในสถาบันชั้นนำเหล่านั้นได้ เรื่องนี้ผมไม่เคยรู้มาก่อนจนกระทั่งลูกชายเล่าให้ฟัง และการรับเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำนี้ ฝ่าย Admission จะดูจากผลการเรียนของเด็กที่มาจากโรงเรียนเหล่านี้ ว่าเรียนได้ดีหรือไม่ หากเป็นเด็กที่ทำได้ดี มีการเรียนดี มหาวิทยาลัยก็จะให้ป็นลักษณะโควต้าแก่โรงเรียนนั้นๆ ที่ลูกผมไปเรียนนั้นชื่อ The Hill School อยู่ที่เมือง Pottstown รัฐ เพนซิลเวเนีย ก่อนที่ลูกผมจะไปเรียน ไม่เคยมีประวัติว่า มหาวิทยาลัย Stanford ที่เมือง San Francisco จะรับเด็กจากที่นี่ แต่เนื่องจากลูกทำคะแนนในวิชา Physics ได้ดีมากๆ ทางมหาวิทยาลัยจึงรับ และหลังจากนั้น ก็จะมีเด็กจากที่นี่ ไปที่ Stanford University ทุกปีๆละ2 ถึง 3 คน เช่นเดียวกับที่ โรงเรียน Phillip Academy ที่จะมีเด็กจำนวนมากที่สามารถเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย Harvard และ MIT
ดังนั้นการหาโรงเรียน Boarding School ให้ลูกของคุณจะต้องมีการทำวิจัยพอควร เพราะว่าประวัติของโรงเรียนจะมีผลต่อการที่ลูกของคุณจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในใจได้หรือไม่ คราวนี้มาถึงคำถามที่ว่า ลูกของคุณจะเรียนไหวหรือไม่ ผมขอบอกเลยครับว่าการที่ลูกของผมไปเรียนอยู่ในปีสุดท้ายนั้น เป็นการโหดร้ายพอควร แต่ถ้าลูกไปตั้งแต่ เกรด 9 จะเรียนสบายกว่าเพราะว่ามีเวลาปรับตัว หากลูกของคุณมีความฝันที่จะเข้ามหาวิทยาลัยดังๆแล้วไซร้ เขาคงต้องพยายามขวนขวายอย่างที่สุดที่จะเรียนให้ดี การเรียนในBoarding School นั้นไม่เรียนหนักเหมือนที่เด็กไทยเราเรียนอยู่ในขณะนี้ ตอนที่ลูกไปนั้น การเรียนเป็นแบบ ปีละ 4 เทอม และในแต่ละเทอมนั้น เรียนแค่ 5วิชาโดยมีวิชาหลักอยู่แค่ 4 วิชา ส่วนอีกหนึ่งวิชา เป็นวิชาเลือก อาทิเช่น วิชา Drama หรือ วิชา Pottering หรือ เป็นวิชากีฬาต่างๆแล้วแต่จะเลือกเรียน
การเรียนในแต่ละวันนั้นก็เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนแล้วรับประทานอาหารเช้า หลังจากนั้นก็เข้าเรียนจนถึง 11นาฬิกา ก็จะมีการปล่อยให้พักผ่อนก่อนรับประทานอาหารกลางวัน หลังอาหารกลางวันก็มีการเข้าห้องสมุด พอตอนบ่าย 2 โมงทุกคนจะต้องออกมาในสนามเพื่อที่จะต้องออกอำลังและเล่นกีฬา ตามที่ตัวถนัด ผมเคยได้รับจดหมายเตือนจากโรงเรียนว่า ลูกถูกหักคะแนนความประพฤติ ผมก็ตกใจว่าเอลูกเราไปทำอะไรผิด เลยโทรไปถามผลคือลูกบอกว่าเขาอ่านตำราไม่ทัน เลยไม่อยากลงมาเล่นกีฬา และหลบอยู่บนห้องสมุด เลยถูกเช็คชื่อ และตัดคะแนน ผมก็รู้สึกงงว่าเรื่องแค่นี้ ไม่น่าที่จะมาตัดคะแนนกันเลย ผมเลยส่งเมลไปถามผู้อำนวยการ ผลเขาตอบว่า ไม่อยากให้เด็กของเขาเอาแต่เรียน ทุกคนต้องออกมารับอากาศบริสุทธิ์และได้ยืดเส้นยืดสาย และเรื่องลูกของผมนั้นไม่ซีเรียส เพราะว่าเขารู้ว่าลูกเรียนดี เอาละวันนี้พอแค่นี้ก่อน มีเรื่องอีกเยอะครับ สนุกๆด้วยซิ

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การศึกษาของลูก...โรงเรียนอินเตอร์ดีไหม?

มีผู้ปกครองหลายๆท่านที่อยากให้ลูกเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ ด้วยจุดประสงค์ที่อยากให้ลูกสามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง และด้วยเหตุผลที่ว่า โรงเรียนอินเตอร์บางแห่งสามารถที่จะเข้าเรียนได้ง่ายกว่าโรงเรียนสามัญทั่วไป ผมก็เผอิญมีประสบการณ์เพราะลูกคนเล็กนั้น ภรรยาอยากให้เข้าเรียนในโรงเรียนอินเตอร์ ผมเลยปรึกษากันและเลือกโรงเรียน Adventist Church School ที่อยู่ในซอยคลองตัน ถนนสุขุมวิท 77 ช่วงแรกๆที่ลูกเข้าเรียนนั้นมีปัญหาการปรับตัวมาก ทั้งๆที่ผมและภรรยาก็เรียนจบจากต่างประเทศมา แต่เราไม่ได้ใช้ภาษาอังกฤษที่บ้าน มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่ลูกถูกเรียกให้ตอบคำถาม ผลคือเขาปล่อยโฮเลย เพราะเขาไม่สามารถเข้าใจในคำถามได้ ผมจึงอยากให้ท่านผู้ปกครองกรุณาเตรียมเด็กให้พร้อมก่อนที่จะพาลูกไปเข้า และสิ่งที่สำคัญมากคือท่านต้องคอยตรวจดูหนังสือตำราต่างๆที่ทางโรงเรียนให้ลูกเราเรียน เนื่องด้วยที่โรงเรียนที่ลูกไปเรียน เขาไม่อนุญาตให้เอาตำรากลับบ้าน จนมีอยู่วันหนึ่ง ผมขอครูเขาให้ลูกเอาตำราวืทยาศาสตร์กลับมาอ่านต่อที่บ้าน ถึงได้รู้ว่าที่ลูกเรียนอยู่นั้น มันผิดไปจากความเป็นจริง อาทิ ในตำราบอกว่า แผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดนั้นเกิดจากการที่พระเป็นเจ้าท่านดลบันดาลให้เกิดขึ้น พอผมเห็นเท่านั้น ผมได้บอกกับภรรยาเลยว่าลูกต้องย้ายโรงเรียนแล้วละ ผมเข้าใจในตอนแรกว่าโรงเรียนนี้เป็นสำหรับเด็กคริสเตียน แต่รู้สึกว่ารับไม่ได้
การเรียนโรงเรียนอินเตอร์ เหมาะสำหรับเด็กที่พ่อแม่มีความสามารถที่จะเข้าใจในภาษาอังกฤษอย่างดี เพราะว่าเราจะต้องอธิบายให้ลูกฟังได้ เมื่อเขามีข้อสงสัย และเวลาที่ครูเรียกพ่อแม่ไปพบ ซึ่งมีบ่อยมาก ท่านจะต้องโต้ตอบกับครูได้มิฉะนั้น ท่านแย่แน่ ลูกจะหมดศรัทธาในตัวคุณทันทีที่คุณไม่สามารถเข้าใจภาษาอังกฤษ
เมื่อลูกเรียนในโรงเรียนจนสามารถพูดและฟังได้แล้ว ท่านก็ต้องมองไปข้างหน้าแล้วว่าการศึกษาขั้นที่สูงขึ้นจะทำอย่างไร เพราะการที่เราให้เขาเรียนในระบบฝรั่งแล้ว ให้ลูกเปลี่ยนกลับมาเรียนในระบบเดิม ลูกจะมีปัญหาในการเรียนแน่นอน เพราะว่าอาจจะถูกทำโทษในห้อง เพราะว่าในระบบอินเตอร์นั้น จะไม่มีการทำโทษเด็ก หากเด็กไม่เชื่อฟัง อย่างร้ายที่สุดคือ ผู้ปกครองจะถูกเรียกมาพบกับผู้อำนวยการ
เอาละในเมื่อท่านสามารถส่งลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์ได้ แสดงว่าท่านจะต้องมีฐานะพอสมควร ดังนั้นเมื่อลูกเรียนถึงเกรด 8 ท่านต้องมองหาที่เรียนใหม่แล้ว ที่หนึ่งที่เหมาะกัยท่านและสามารถทำให้ลูกเรามีโอกาศที่จะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐได้ โรงเรียนเหล่านั้นคือ Boarding School ซึ่งจะรับเด็กตั้งแต่เกรด 9 ขึ้นไป ค่าเทอมก็แพงพอควร แต่มันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพราะลูกอาจจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยระดับ top ten หรือ top twenty ได้ในสมัยผม ไม่เคยมีความหวังเลยว่าจะมีลูกไปเรียนในมหาวิทยาลัยระดับ Harvard University, Massachusett Institute of Technology, Stanford University, Columbia University, Cornell University, Carnegie Mellon University etc. แต่ท่านเชื่อหรือไม่ว่า มันเป็นความจริงที่ปรากฎว่าลูกสามารถเข้าไปเรียนได้ และลูกของเพื่อนที่เรียนมาจากจุฬานั้น ก็สามารถเข้าเรียนได้เหมือนกัน นั่นแสดงว่าเด็กไทยเรามีความสามารถที่จะเข่าไปเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำเหล่านั้นได้ พียงแต่เราต้องเตรียมความพร้อมและให้ลูกได้มีโอกาศ ที่ไปแข่งขันกับคนอื่นได้ครับ ท่านที่อ่านมาแล้วมีความเห็นอย่างไรบ้าง มาช่วยกันแชร์ความคิดกันดีไหมครับ

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เมื่อถึงเวลาที่ลูกจะขึ้นไปเรียนมัธยม จะไปที่ไหนดี

การศึกษาของไทยแบ่งเป็น 4 ช่วงชั้น ช่วงชั้นแรกคือ ประถม 1 ถึง ประถม 3 ช่วงชั้นที่ 2 คือ ประถม 4 ถึงประถม 6 ต่อจากนั้นก็ถึงเวลาสำคัญหรือเรียกว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ของอนาคตของลูกเราก็ว่าได้ เพราะว่าสังคมที่ลูกจะใช้เวลาอีก 3 ปีในช่วงชั้นที่ 3นี้ จะมีผลต่อชีวิตของลูกเราเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงมีผู้ปกครองเป็นจำนวนมากที่ยอมวิ่งเต้นสุดกำลังที่จะเอาลูกเข้าไปในโรงเรียนที่ดีที่สุด การเข้าเรียนในชั้นมัธยม 1 มีรายชื่อของโรงเรียนที่เป็นที่ใฝ่ฝันของเหล่าเด็กเรียนดังต่อไปนี้
1 โรงเรียนสาธิตปทุมวัน

2 โรงเรียนสวนกุหลาบ

3 โรงเรียนเทพศิรินทร์


4 โรงเรียนสตรีวิทยา
5 โรงเรียนศรีอยุธยา
6 โรงเรียนสาธิตประสานมิตร มัธยม
บรรดาโรงเรียนเหล่านี้ มีอัตราการรับเด็กอยู่ระหว่าง 1 ต่อ 50 ถึง 100 คน ดังนั้นจะเป็นการแข่งขันกันอย่างที่สุด อาจจะพูดได้ว่ามากกว่าการเข้ามหาวิทยาลัยเสียอีก มักจะมีคนถามผมเสมอว่ามีทางที่จะใช้เส้นสายไหมที่จะเอาลูกเข้าไปเรียนให้ได้ ผมก็จะตอบอย่างไม่อ้อมค้อมว่า เป็นไปได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าลูกของคุณจะประสบความสำเร็จ การที่ลูกของเราไม่สามารถที่จะสอบเข้าไปได้นั้น เมื่อเรายังดึงดันที่จะให้ลูกเข้าไปให้ได้ เมื่อเรียนไป สักพักก็จะมีผลคือลูกจะเรียนตามเพื่อนๆไม่ไหว ท่านผู้ปกครองอย่าคิดนะครับว่า การที่ลูกเข้าไปแล้วจะทำให้เขาปรับตัวเพื่อให้ทันเพื่อน นั่นเท่าที่ผมเคยพบมา ยังไม่มีใครทำได้เลย ฉะนั้น การที่ลูกได้เรียนอยู่ช่วงชั้นแรกๆ ผู้ปกครองควรจะต้องสอนให้ลูกมีการเตรียมพร้อมที่จะเผชืญหน้ากับการเรียนที่หนักหนาในวันข้างหน้า

อนาคตของร้านทองตู้แดงจะไปทางไหน?

จากที่ได้ทำงานในธุรกิจนี้มากว่า 30 ปี ผมเห็นว่าการที่ทองราคาสูงขึ้นอย่างนี้จะเป็นผลลบต่อธุรกิจของพวกเรา ดังนั้นเราควรจะต้องมีการเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า ทางร้านใหญ่ในเยาวราชได้ทำการปรับตัวโดยการผลิตทองคำแท่งที่มีขนาดเล็กลง เพื่อที่จะสนองความต้องการของผู้บริโภค แล้วร้านทองในต่างจังหวัดจะต้องเตรียมตัวกันอย่างไร การรับจำนำทองในปัจจุบันนั้น ก็มีคู่แข่งที่น่ากลัวคือบรรดาบริษัทไฟแนนซ์ ที่ทยอยออกมาเปิดให้บริการกับผู้บริโภค และสภาพของทองที่มีอยู่กับลูกค้าในท้องตลาดก็มีจำนวนน้อยลงไปเรื่อยๆ น่ากลัวมากนะครับ
ผมขอแนะนำให้ท่านทั้งหลายที่เปิดร้านทองอยู่ช่วยกันระดมความคิด ปัจจุบันเรามาคิดว่าร้านทองที่เปิดอยู่เป็นคู่แข่งกันไม่ได้อีกแล้ว เราจะต้องผนึกกำลังกัน โดยใช้ทรัพยากรที่เรามีอยู่ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด อาจจะต้องเข้าไปในตลาดหุ้นเพื่อที่จะหารายได้มาจ่ายค่าโสหุ้ยต่างๆ หรือท่านอาจจะต้องหาบริการพิเศษมาขายให้กับลูกค้า อย่างที่ผมเคยได้ยินมาว่า ปัจจุบันมีบริการให้เช่าทองหมั้น โดยมีการคิดค่าบริการพอสมควร เนื่องจากในต่างจังหวัด งานแงงานจำเป็นต้องมีทองรูปพรรณ มิฉะนั้น เจ้าภาพจะขายหน้า และเราก็ต้องมีการว่าจ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันไม่ให้มีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับทองของเรา อีกสิ่งที่ท่านสามารถทำได้ก็คือ การขายทองเงินผ่อน แต่ท่านจะต้องรับความเสี่ยงบ้าง โดยการที่ทางร้านทำการขายทองเป็นแบบ instalment คือผ่อนจ่ายเป็นงวดๆแล้วเมื่อจ่ายหมดก็สามารถมารับทองเส้นนั้นไปได้ เป็นต้น
ผมขอยืนยันนะครับว่า เหตการณ์ปัจจุบันที่เกิดอยู่นี้ เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากๆครับ

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การเอาลูกเข้าเรียนชั้นประถม.....

ผมอยากขอเริ่มจากการที่พ่อแม่จะเอาลูกเข้าโรงเรียน ผมจะไม่เน้นระดับอนุบาลหรอกนะ เพราะว่าจากประสบการณ์ที่มีกับลูกสองคนแรก ที่ผมได้ฝากความหวังไว้ที่โรงเรียนอนุบาลที่มีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่ง อยู่ที่หัวถนนสาทร เวลาจะไปเอาใบสมัคร ต้องถ่อสังขารไปตั้งแต่ตีสอง เพราะว่าโรงเรียนนี้เปิดขายใบสมัครแค่ปีละหนึ่งวัน ( เดี๋ยวนี้เป็นอย่างไร ผมยังไม่ได้เช็คดู ) เมื่อลูกสองคนแรกไปเรียนที่นี่ ต้องถูกรังแกจากบรรดาพวกลูกคนรวย ใครบอกว่าโรงเรียนดีๆแพงๆจะไม่มีกุ๊ย แม้แต่ระดับอนุบาลยังมีเลยครับ แต่นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากจะเล่า เรื่องมันเกิดเมื่อลูกจะต้องไปสอบแข่งขันเพื่อเข้าโรงเรียนในเครือ สาธิต ผมอุตส่าห์ขับรถจากบ้านแถวพระโขนง ไปบ้านของครูที่ผมหวังจะให้ติวลูกที่สี่แยกไฟฉาย แถบฝั่งธน ทราบไหมครับว่าคุณครูที่เราเอาของขวัญปีใหม่ไปให้เขาทุกปี ตอบว่าไม่ว่าง และบอกว่าลูกผมไม่มีหวังหรอกเพราะว่าเรียนไม่เก่ง จากนั้นผมก็พยายามหาคนที่จะติวให้ลูกจากใบประกาศตามหน้าโรงเรียนสาธิต สุดท้ายก็ได้ครูเด็กๆท่านหนึ่งรับเป็นติวเดอร์ให้ ลูกคนโตสามารถเข้า โรงเรียนสาธิตประสานมิตร ได้ ส่วนลูกคนที่สองสามารถเข้าโรงเรียน มาแตร์เดอีได้ พอทางโรงเรียนทราบเท่านั้นแหละครับ เอาชื่อลูกไปแปะไว้ที่บอร์ดหน้าโรงเรียนเลยว่า เด็กของโรงเรียนนี้สามารถเข้าโรงเรียนนั้นๆได้
ผมขอเริ่มเลยนะว่าโรงเรียนระดับประถมเท่าที่จัดอันดับการเข้ายากและมีชื่อเสียงจะมีอยู่ 2 ประเภท โดยที่ประเภทแรกคือโรงเรียนในเครือสาธิต โรงเรียนเหล่านี้สอนโดยอาจารย์จากคณะครุศาสตร์ หรือ จากคณะศึกษาศาสตร์ ที่เหล่านี้จะไม่มุ่งเน้นเรื่องการเรียนในตำราเท่าไรนัก แต่จะมุ่งเน้นในกิจกรรม ที่จะให้เด็กมีการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจ ดังนั้นหากพ่อแม่คนไหนต้องการเน้นให้ลูกเรียนหนักในวืชาต่างๆ ผมต้องขอเรียนให้ทราบว่าท่านต้องไปดูที่ประเภทอื่น การจัดอันดับเข้ายากจากยากที่สุดไปนั้นมีดังนี้ครับ
1. โรงเรียนสาธิต จุฬาฯ
2. โรงเรียนสาธิต ประสานมิตร
3. โรงเรียนสาธิต รามคำแหง
4. โรงเรียนสาธิต เกษตรฯ
จากรายชื่อโรงเรียนเหล่านี้ ท่านสามารถเข้าไปสอบถามรายละเอียดได้ แต่ผมขอให้ทำใจไว้ก่อนนะครับ เพราะถ้าหากลูกของท่านไม่เก่งชนิดเลอเลิศ เปอร์เซนต์การที่จะได้รับเข้านั้น ริบหรี่มาก แต่หากถามว่ามีวิธีอื่นไหม ขอตอบว่ามีครับหากท่านมีเงินมากๆ ท่านสามารถจะใช้ช่องทางพิเศษ ที่ทางโรงเรียนเหล่านี้มี คือท่านต้องทำตัวให้เป็นผู้มีพระคุณแก่โรงเรียน โดยการเข้ามาร่วมทำกิจกรรมของโรงเรียน หรือท่านต้องบริจาคให้โรงเรียนมากจนชื่อท่านเป็นที่ยอมรับของท่านผู้อำนวยการและสมาคมครูและผู้ปกครอง หากอยากทราบท่านต้องถามเป็นการส่วนตัวนะ บอกในที่นี้เดี๋ยวทุกคนทำตามกันหมด ก็เลยไม่ขลัง

ต่อมาเป็นประเภทที่ 2 คือโรงเรียนในเครือคาทอลิก โรงเรียนเหล่านี้จะมีทั้ง ชายล้วนและหญิงล้วน จัดอันดับการเข้ายากจากยากมากๆได้ดังต่อไปนี้
1. โรงเรียน มาแตร์เดอี
2. โรงเรียน อัสสัมชัญ ประถม
3. โรงเรียน เซนต์คาเบรียล
4. โรงเรียน เซนต์โยเซฟคอนแวนต์
5. โรงเรียน เซนต์ฟรังซิสเซเวียร์
โรงเรียนเหล่านี้ มักจะรับลูกของศิษย์เก่าก่อน และจำนวนนักเรียนที่รับก็ไม่เคยเพิ่มปริมาณขึ้นตามจำนวนประชากร ดังนั้นการที่จะได้รับเข้าค่อนข้างจะยากมากๆ แต่ก็ยังมีทางอยู่ เพราะว่าผมก็ได้เอาลูกสาว 2 คนเข้าไปเรียนในโรงเรียนมาแตร์มาแล้ว ภรรยาผมก็ไม่ได้จบที่นี่ แต่อาศัยความพยายาม......จุ๊ย..เรื่องนี้ต้องบอกกันเป็นการส่วนตัวนะครับ แต่ตัวกุญแจสำคัญคือ ความพยายาม และความอดทน

ผมขอบอกให้บรรดาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เลยนะครับ ว่าการเลี้ยงลูกนั้นไม่ยากเท่าการหาโรงเรียนดีๆให้ลูก และที่มีคนพูดว่าจะเอาลูกเข้าโรงเรียนจะต้องใช้เงินมากมายมหาศาลนั้น มีส่วนจริงอยู่บ้างแต่ ท่านอย่าลืมนะว่า คนที่มีเงินมากกว่าเราก็มี และเขาก็ยินดีที่จะจ่ายเหมือนกัน ดังนั้นการที่เราจะทำให้โรงเรียน โดยเฉพาะท่าน ผ.อ.จดจำชื่อของลูกเราหรือชื่อของท่านได้ท่านต้องลงทุนเวลาพอสมควรเลยครับ

สถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก

มาวันนี้ ผมอยากเล่าเรื่องเกี่ยวกับสถาบันการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลก ผมได้ไปทำการเลือกภาพสวยๆมาให้ดูดังนี้

นี่คือภาพของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากทางด้านธุรกิจ ชื่อ University of Pennsylvania เป็นบ้านของ Wharton School of Business มีผู้มีชื่อเสียงของไทยจำนวนมากที่จบจากที่นี่ เช่น ม.ร.ว. ปรีดียาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าแบงค์ชาติของเรา มีนักเรียนไทยจำนวนมากที่อยากไปเรียนที่นี่ ต่อมาก็เป็นมหาวิทยาลัย Cornell อยู่ที่รัฐนิวยอร์ก


ที่นี่มีพระเจ้าหลานเธอพระองค์ภา ได้เสด็จไปทรงศึกษาต่อจนจบปริญญาเอกทางด้านกฎหมาย มหาวิทยาลัยนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาในเมือง Itaca มลรัฐนิวยอร์ก ต่อไปก็จะเป็นมหาวิทยาลัยเก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดทางด้านกฎหมายและทางด้านการแพทย์นั่นคือ มหาวิทยาลัย ฮาร์วาด

เอาละแล้วค่อยหามาให้อ่านอีกครับ

About my club,The Royal Bangkok Sports Club



Today, I just came back from the squash tournament at the RBSC Polo Club. This tournament is named the King's Cup because the cup was given from the King Rama 7. I never see the game before and I found out that this is a very quick game. The ball was hit at a amazing speed and the players had to be on the same ground unlike tennis which the players are on the opposite side of the net. This squash court has no net but it has the line drawn on each wall. The court is a rectangular shape with three walls and the entrance is a thick glass wall with a door. The players have to play the best three out of five games. Each game, the player has to make to 9 points. The rules are very tricky because the player can call for the let because the other player doesn't move out of the way so the designated player cannot get to the ball. The ball can bounce on the ground only one time and it can be hit to each wall once. After the match, the representative of the King( we call his excellency, Privy) handed the Cup to the winner. It is very interesting game. Thank you for sharing my experience. I normally play tennis, swimming, water polo, golf, table tennis, chess, badminton. I think I have to try on this squash game because the court has air-conditioned.

เพิ่งไปดูเขาแข่งสควอชชิงถ้วยคิงส์คัพ

สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมเพิ่งจะกลับมาจากสโมสร เพราะต้องไปต้อนรับผู้แทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากว่ามีการแข่งขันสควอชชิงถ้วยคิงส์คัพ ผมเพิ่งได้ดูการแข่งขันเป็นครั้งแรก ต้องใช้เวลาพอสมควรที่จะทำความเข้าใจกฎกติกา และการนับแต้ม สควอชเป็นกีฬาที่ต้องใช้ความเร็วสูงมาก และต้องคอยหลบหลีกผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม ไม่ให้เอาไม้มาตีหัวกัน หากท่านนึกไม่ออก ลองคิดถึงห้องสี่เหลี่ยม ที่มีกำแพงอยู่ 3 ด้านและฝาด้านหนึ่งเนกระจกหนาใสเพื่อให้ผู้ชมมองทะลุไปได้ การนับแต้มจะนับเมื่อคนเสริฟทำคะแนนได้จึงนับหนึ่ง แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนเสริฟ เริ่มต้นจะต้องเสริฟจากทางด้านขวาเสมอ โดยต้องมีเท้าของผู้เสริฟอยู่ในช่องที่กำหนด เล่นกันให้ได้สามเกมส์ก่อนจะเป็นผู้ชนะ ในเกมส์จะนับจนถึง 9 แต้ม
ในการเล่น ผู้เล่นจะต้องตีลูกให้ไปโดนกำแพงค้านหน้า หนึ่งครั้งก่อนและลูกสามารถตกพื้นได้เพียง หนึ่งครั้ง และผู้เล่นสามารถตีวอลเล่ห์ได้ด้วย ข้อที่ตลกกว่ากีฬาอื่นก็คือ ถ้าผู้เล่นฝ่ายใดยืนบังอีกคนหนึ่งไม่ให้เขาตีได้ หากเป็นการจงใจจะถูกให้คะแนน หรืออาจเปลี่ยนเสริฟได้ แต่ถ้าไม่ตั้งใจก็สามารถขอ เล็ท แล้วเล่นแต้มนั้นใหม่ได้
ไม่รู้ว่าผมสามารถอธิบายให้เข้าใจได้บ้างหรือไม่ แต่ขอบอกตามตรงเลยครับว่า เป็นกีฬาที่โหดน่าดู พอแข่งเสร็จ ท่านผู้แทนพระองค์ได้ทำการมอบถ้วยให้แก่ผู้ชนะ ผมเพิ่งทราบว่า ถ้วยนี้ได้รับมอบมาจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

วิชาสังคมที่เด็กเรียนกันอยู่ หลักสูตรถูกต้องไหม

การที่ได้มีโอกาศไปทราบถึงหลักสูตรของต่างประเทศเกี่ยวกับการเรียนวิชาสังคมศึกษา ผมว่าการที่กระทรวงศึกษากำหนดให้เด็กต้องเรียนวิชาสังคมที่มีเนื้อหาส่วนมากเกี่ยวกับการเมืองของไทยนั้น ไม่ถูกต้อง วิชาที่เด็กๆกำลังเรียนกันอยู่นี้น่าจะเรียกว่า Political Science ไม่ใช่วิชา Social Science
ทำไมเด็กไทยส่วนมากถึงไม่รู้วิธีที่จะปฏิบัติตัวในสังคม เพราะว่าทางโรงเรียนไม่ถือว่าเป็นความจำเป็นของโรงเรียนที่จะให้ความรู้ในด้านนี้ แต่ทางผู้ปกครองก็คาดว่าทางโรงเรียนได้มีการสอนแล้ว ผมเคยไปปรึกษาครูผู้ปกครองของโรงเรียนลูกสาว ซึ่งโรงเรียนนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงเรียนต้นแบบ ขออนุญาตเอ๋ยชื่อนะครับ คือ โรงเรียนมาแตร์เดอี เนื่องจากโรงเรียนนี้เป็นสตรีล้วน ดังนั้นการที่เด็กสาวจะปฏิบัติตัวอย่างไรเมื่อต้องเข้าไปพบกับเด็กหนุ่มๆในรั้วมหาวิทยาลัย ผมได้เสนอให้ทางโรงเรียนจัดงานในลักษณะเหย้าเยือนกับโรงเรียนเด็กชายล้วน แต่รับการต่อต้านจากผู้ปกครองท่านอื่นๆ ผมว่ามันน่าจะดีที่ให้เด็กสาวๆ ได้ทำความรู้จักกับเด็กชาย และให้ทางเด็กชายให้เกียรติกับเพศตรงข้าม ภายใต้การดูแลของครูและผู้ปกครอง
ผมต้องใช้เวลามากพอสมควรที่จะอธิบายให้ลูกสาวทราบถึงธรรมชาติของเด็กผู้ชาย วิธีที่จะหลีกเลี่ยงมิให้ฝ่ายเด็กชายตู่ว่าลูกสาวของเราไปให้ท่า มีถึงการเรียกใช้สรรพนามในหมู่เพื่อน ลองคิดดูซืครับว่า หากลูกสาวของเราไปอยู่ท่ามกลางเด็กหนุ่ม จะต้องมีการจัดคู่กันว่าใครเป็นแฟนใคร โดยที่ลูกสาวเราไม่รู้ ผมได้สอนให้ลูกเรียกเพื่อนทุกคนว่า นาย ไม่ให้เรียกชื่อเล่น เพื่อเป็นการป้องกัน และเราจะต้องไปคอยรับส่งในช่วงแรกๆ เวลาไปไหนให้ไปกันเป็นกลุ่ม ไม่ให้ไปกัน สองต่อสอง
สิ่งเหล่านี้ เป็นความจำเป็นที่โรงเรียนน่าจะสอนให้เด็กสาวๆ รับรู้ก่อนที่จะไปเผชิญกับโลกแห่งความเป็นจริง การที่เราได้อ่านหนังสือพิมพ์และพบว่า เด็กชายได้พยายามฆ่าตัวตายเพื่อประชดแฟนตัวเองนั้น ผมว่ามันเป็นการที่บอกให้ทราบว่า สังคมไทยยังขาดการเรียนรู้ทางสังคม ดังนั้นจึงสมควรที่กระทรวงศึกษาต้องมีการปรับปรุงหลัดสูตรวิชาสังคมศึกษาเสียที

เหตผลที่เราต้องเอาพวกรูปพรรณไปแปรสภาพก่อน

การที่เราเอาทองรูปพรรณไปแปรสภาพเป็นทอง 999.9 นั้น เพราะว่าเราสามารถทำให้ช่องว่างระหว่างการขายแคบลง การที่เราเอาทองรูปพรรณไปให้ร้านขายส่งตีราคา ผมรับรองเลยว่าเขาจะต้องเอาราคาทองคำแท่งซื้อเข้า มาคิดโดยที่ไม่มีการบวกให้เราหรอก และการตีราคาหักค่าน้ำกรด หรือค่าหักในการสกัดนั้น เขาจะต้องหักให้มากกว่าเปอร์เซนต์จริงแน่นอน เพราะว่าปัจจุบัน ร้านขายส่งเขาก็ใช้บริการของโรงงานสกัดอยู่แล้ว ผมขอให้ท่านคิดดีๆ การที่เราถือทองแท่ง 999.9 ไปต่อรองกับร้านขายส่ง ท่านจะมีกำลังในการต่อรองได้ดีกว่า ที่ท่านจะเอารูปพรรณไปเร่ขายครับ แต่ก่อนอื่น ผมว่าท่านจะต้องอยู่ในกรุงเทพ เพราะว่าถ้าท่านมาจากต่างจังหวัด ท่านจะต้องมีค่าใช้จ่ายในการมาพักค้างคืนที่กรุงเทพ

วันพุธที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

Re.ถ้ามีทองรูปพรรณมากๆจะไปขายที่ไหน

คำถามนี้มาจากเพื่อนร้านทองที่มีความคิดจะแปรสภาพทองรูปพรรณที่ไม่สามารถทำกำไรให้เราได้ เป็นความคิดที่ดีมากครับ ราต้องไม่เสียดายค่าแรงเพราะยิ่งนานวัน ค่าเสียโอกาสก็เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ เอาละผมต้องถามคุณว่าท่านมีเวลาเท่าไร ท่านรีบมากมั๊ย หากท่านตอยว่าท่านมีเวลา ผมขอแนะนำให้นำทองรูปพรรณทั้งหมดที่ท่านมี คาดว่าน่าจะมีน้ำหนักเป็นกิโลนะครับ เอาไปให้บริษัทเขาทำการสกัดให้เป็นทองแท่ง 999.9 ทางบริษัทเขาจะคิดค่าสกัดเป็นน้ำหนักทองเมื่อสกัดได้แล้ว โดยจะคิดประมาณ 0.5%ถึง1.00% เมื่อเขาส่งคืนทองแท่งให้แล้ว คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับเราที่จะเอาทองแท่งนี้ไปขายให้ใครก็ได้ ราคาก็จะดีกว่าด้วย หากท่านไม่รู้อยากจะใช้บริการของผมก็สามารถทำได้ ให้ท่านส่ง email ไปที่email address ของผม ผมยินดีที่จะให้คำแนะนำเพิ่มเติมครับ

เมื่อสองสามวันก่อนผมเอาทองคำแท่งที่เพื่อนฝากขายไปให้ร้านของเพื่อนที่เป็นร้านขายส่งอยู่ในบ้านหม้อ แต่ไม่เจอเพื่อนเพราะว่าเขาไปต่างประเทศ เลยให้ลูกชายของเขาตีราคา ผลคือโดนตัดราคาไปจมหูเลย เห็นไหมครับว่าแม้แต่ผมที่รู้จักร้านทองมากหลายเจ้า แทบจะบอกได้เลยว่ารู้จักร้านขายส่งทั้งหมดยังโดนเขาเอากำไรไปอย่างน้อย 2-3% ดังนั้นหากคุณกำลังคิดที่จะขายทองขอให้ใจเย็นๆจะได้การขายที่ดีครับ

คำแนะนำในการเลี้ยงลูกให้ฉลาด(2)

จากคราวที่แล้วที่พูดถึงการเรียนพิเศษที่คุณพ่อคุณแม่มีความรู้สึกว่าหากไม่ส่งลูกให้ไปเรียนจะทำให้ลูกตามเพื่อนๆไม่ทัน ผมขอเตือนความจำของท่านผู้ปกครองทั้งหลายไปเมื่อท่านยังเป็นนักเรียนอยู่ เมื่อตอนนั้นจะมีแต่เด็กที่เรียนไม่ทันเพื่อนถึงจะต้องถูกส่งแกมบังคับให้ไปเรียนพิเศษ แต่ค่านิยมปัจจุบันได้เปลี่ยนไป จะมีแต่เด็กที่เรียนดี พยายามขวนขวายหาความรู้เพิ่มเติม คำแนะนำของผมคือ ให้ท่านผู้ปกครองพยายามหลีกเลี่ยงการที่จะให้เด็กของท่านไปเรียนพิเศษในตอนเย็นหรือในวันหยุด นอกเสียจากท่านจะมีแผนการที่จะไปสอบแข่งขัน การเรียนภายในโรงเรียนของลูกท่านน่าจะเพียงพอกับความสามารถในการเรียนของลูกท่านอยู่แล้ว เพราะว่าหากโรงเรียนไม่สามารถสอนลูกท่านให้ดีได้ ท่านคงจะไม่เลือกที่จะส่งลูกไปเรียนที่นั่นแน่ๆ การทีเด็กต้องเรียนอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เด็กขาดทางด้าน EQ( emotional quotient) การปฏิบัติตัวในสังคมจะขาดไป ในชีวิตของเขาจะถูกสอนให้มีแต่การทำข้อสอบ แต่ความสามารถที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นนั้นขาดหายไป ในเมื่อคนทุกคนต้องเติบโตขึ้นไปเพื่อที่จะต้องไปทำงานกับคนอื่น เด็กของท่านจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตของเขาครับ

เมื่อมาพูดถึงการที่ลูกของเราเรียนเก่ง สามารถทำคะแนนได้ดี พ่อแม่จะมีแต่ความภูมิใจ แต่นั่นหมายความว่าท่านจะต้องให้ความรู้เกี่ยวการดำรงตนอยู่ในสังคมด้วยนะครับ การสอนวิชาสังคมศึกษาในโรงเรียนปัจจุบันนี้ ไม่ได้สอนให้เด็กไทยรู้เรื่องสังคมเลยสักนิดเดียว ทำไมเด็กไทยถึงมีปัญหาเรื่องความรัก การปฏิบัติตัวในสังคม และ การวางตัวในสังคม เพราะสิ่งเหล่านี้ไม่ได้มีการสอนในโรงเรียน ที่โรงเรียนจะจัดหลักสูตรการสอนวิชาสังคมแค่ให้เด็กๆเรียนรู้เกี่ยวกับการเมืองการปกครอง แม่เคยอธิบายถึงความที่มีเกียรติหรือความถูกต้อง ความซื่อสัตย์ในหน้าที่การงาน ผมอยากให้ท่านทั้งหลายลองถามเด็กไทยคนไหนก็ได้ครับว่าโตขึ้นอยากเป็นอะไร ร้อยละ 95 จะตอบว่าทำอะไรก็ได้ที่มีเงินเยอะๆ เมื่อมีเงินแล้วก็จะมีคนมาเคารพและมีชื่อเสียง ผมว่าหากเราปล่อยให้เยาวชนคนรุ่นใหม่มีความคิดอย่างนี้ ประเทศเราจะกลายสภาพเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน เพราะว่าหากเรามีเงิน เราก็สามารถทำสิ่งที่ผิดกฎหมายได้ จริงหรือไม่ ท่านก็ถามใจตัวเองดู เพราะว่าผมเคยเจอเหตุการณ์หนึ่ง ขณะที่ผมขับรถอยู่และติดอยู่ในการจราจรที่หนักหนาสาหัส ปรากฎมีขบวนรถของท่านผู้ใหญ่ในรัฐบาล วิ่งสวนทางมาในฝั่งตรงข้าม และวิ่งฝ่าไฟแดงโดยที่ตำรวจจราจรก็ยืนอยู่ตรงนั้น ตำรวจท่านแทนที่จะโบกมือห้ามกลับทำความเคารพอย่างหน้าตาเฉย ลูกถามผมว่าทำไมเราทำอย่างขบวนนั้นบ้างไม่ได้ ผมไม่สามารถตอบลูกได้ ลูกผมเลยบอกว่าเมื่อโตขึ้นเขาจะต้องมีขบวนรถอย่างนั้นบ้าง เพราะว่าเบื่อที่จะต้องติดอยู่ในรถติด

ประเทศเราไม่สามรถที่จะอบรมเด็กของเราให้โตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ เพราะผู้ใหญ่ในสังคมไทยได้ทำตัวอย่างที่ไม่ดีให้อนาคตของชาติได้เห็น

เอาละมาต่อเรื่องการสอนกัน ทุกเช้าที่ท่านผู้ปกครองต้องส่งลูกไปโรงเรียน เวลาในรถนั้นมีค่ามาก ท่านสามารถทบทวนบทเรียน หรือให้มีการท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ อย่าให้ลูกขึ้นรถมาแล้วนอนนะครับ เราต้องหาทางกระตุ้นสมองของลูกให้พร้อมที่จะเข้าเรียนในวันนั้น หากเป็นไปได้ ให้หากระดานมาหรือสมุดฉีกใหญ่ๆมาเล่มหนึ่ง คอยถามลูกเสมอว่าเมื่อวานเรียนอะไรใหม่ๆมาบ้าง ลูกจะรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่เรียนหนังสืออยู่ แต่มีพ่อและแม่มาเรียนด้วย

ขอเล่าเรื่องที่ทำไมทองแท่งถึงไม่มีภาษี VAT

หลายท่านคงจะมีความสงสัยที่ทำไมในอุตสาหกรรมทองของเราจึงมีระบบภาษี VAT ที่แตกต่างจากการค้าแบบอื่นๆ นับว่าเป็นความโชคดีของพวกร้านทองที่เกิดเหตุการณ์ ต้มยำกุ้ง และมีผลกระทบไปทั่วโลก ท่านคงพอจะจำได้ว่าเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2538 ในช่วงที่ท่านนายก พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ ประเทศไทยได้เกิดภาวะลูกโป่งแตก เพราะเนื่องจากการที่เปิดประเทศไปรับเงินทุนจากประเทศตะวันตก เรียกกันในตอนนั้นว่า BIBF พอถึงเวลาที่ความมั่นใจในประเทศไทยลดลง ต่างชาติที่เป็นเจ้าของเงินได้ทำการเรียกเงินกลับ ทำให้ประเทศพบกับการไหลออกของเงินตราต่างประเทศ ในตอนนั้น ประเทศเราไม่มีเงินทุนสำรองเพียงพอที่จะไปจ่ายเป็นค่าเชื้อเพลิง และค่าสินค้าต่างๆ ทำให้ต้องมีการลดค่าเงินบาท ไปจน 1 ดอลล่าห์สหรัฐมีค่าเท่ากับ 52 บาท หลังจากรัฐบาลคุณชวลิตได้ลาออกไป รัฐบาลคุณชวนได้เข้ามาบริหารต่อ ก็ได้มีพระที่ประชาชนเคารพออกมาระดมทุนเพื่อใช้เก็บเป็นเงินคงคลัง คือ หลวงตามหาบัว ในตอนนั้นมีกระแสชาตินิยมแรงมาก และกระทรวงการคลัง ได้ออกความเห็นซึ่งทางสมาคมค้าทองคำได้พยายามอธิบายให้ทางการทราบเสมอว่าทองคำเป็นเงินตราประเภทหนึ่ง ไม่สมควรที่จะให้มีการคิดภาษี VAT กระทรวงการคลังเลยมีคำสั่งมาที่กรมสรรพากร ให้หาวิธีที่จะคิดให้ทองคำไม่มีภาษี VAT
มีการใช้ หน่วยงานเข้ามาทำวิจัย คือ TDRI ผลการศึกษาพบว่าที่สมาคมกล่าวอ้างนั้น เป็นความจริง จึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นระหว่าง กรมสรรพากร และสมาคมค้าทองคำ เป็นเวลากว่า 2ปีที่มีการระดมสมอง จนสุดท้ายกรมสรรพากรได้ออกเป็นประกาศกระทรวง ในปี พ.ศ. 2543 ให้ทองคำแท่งมีภาษีเป็น ศูนย์ และในเมื่อต้นทุนวัตถุดิบเป็นศูนย์ การคิดภาษีของทองรูปพรรณก็ต้องมีวิธีที่ต่างไป โดยทางกรมสรรพากรยินยอมให้มีการเอาราคาทองรูปพรรณรับคืนที่ประกาศโดยสมาคมค้าทอง ไปเครดิตแล้วเอาส่วนต่างมาคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามอัตราที่กำหนด ด้วยเหตุประการนี้พวกเราจึงมีภาษีที่เป็นประโยชน์ต่อการค้าของอุตสาหกรรมทองของไทย แต่เนื่องจากสมาคมไม่อยากให้ประโยชนืนี้ตกไปสู่โรงงานทองของต่างชาติ สมาคมจึงเสนอไปยังกรมสรรพากรให้มีการยกเนภาษีกับทอง 96.5% ขึ้นไป เนื่องจากเราทราบว่าต่างชาติไม่สามารถผลิตทองคำรูปพรรณที่มีความบริสุทธิ์มากๆได้ เพราะว่าต่างชาติใช้เครื่องจักรในการผลิต แต่ก็มีความพยายามตลอดมาให้มีการยกเว้นส่วนประกอบต่างในการผลิตทองรูปพรรณ อาทิ ลวดทองที่รีดมาแล้ว เป็นต้น และก็มีหลายสมาคมที่อยากได้ภาษีแบบเรา ได้มีการประชุมกันหลายครั้ง เพื่อที่จะทำการยกเลิกภาษีใน เม็ดเงิน แต่เนื่องจากเงินไม่มีราคารับคืน ทางกรมสรรพากรจึงไม่ยินยอมให้มีการคิดแบบเดียวกับทองคำ
พวกเราเมื่อทราบถึงความเป็นมาของระบบภาษีแล้ว ขอให้ชื่นชมกับบุคคลต่าๆที่ได้เสียสละเวลาและมีความกล้าที่จะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับกรมครับสรรพากร ซึ่งพอเอ๋ยชื่อแล้วก็ไม่มีใครอยากไปตอแยด้วย

คำแนะนำในการเลี้ยงลูกให้เก่งและฉลาด

ผมอยากเขียนเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกมานานแล้ว แต่ยังไม่มีโอกาศที่จะเผยแพร่ ผมอยากถือเอา Blog นี้เป็นการเขียนบทความเลย อย่างน้อยก็เป็นประโยชน์กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กันบ้าง
ประวัติของบรรดาลูกๆผมคือ คนแรก ได้เข้าเรียนในโรงเรียนสาธิตประสานมิตร เวลาที่ลูกคนนี้เรียนอยู่ในชั้นประถมนั้น แกไม่ค่อยได้เรียนเท่าไร เอาแต่เล่นกีฬา อาทิ ฟุตบอล เทนนิส ปิงปอง ว่ายน้ำ และการที่แกชอบออกไปเล่นบอลหลังเลิกเรียน มันเลยเป็นการบังคับให้เขาต้องทำการบ้านให้เสร็จก่อนที่จะไปเล่น สิ่งนี้เลยเป็นการสอนให้เขามีความรับผิดชอบในการบ้านของตัวเอง ผมไม่เคยเห็นเขาเอาการบ้านกลับมาทำเลย เขาจะบอกว่าทำเสร็จที่โรงเรียนแล้ว การเรียนก็อย่างนั้นๆ ไม่โดดเด่นแต่ก็ผ่านทุกวิชา มาจนเขาขึ้นประถม 5 เขาบังเอิญเดินผ่านห้องประชุมที่มีผู้ปกครองและเด็กที่เรียนเก่งกำลังรับใบประกาศเกียรติคุณ ที่เรียนดี เขาเดินมาหาผมและตั้งคำถามว่าทำอย่างไรเขาจึงจะได้รับใบอย่างนั้นบ้าง ผมก็บอกไปว่า อ่านหนังสือมากๆซิ แล้วเราก็จะได้เอง จากวันนั้น ลูกคนนี้ก็ เริ่มหยิบหนังสือตำราต่างๆออกมาอ่านหลังเลิกเรียน เทอมต่อมาการเรียนก็กระเตื้องขึ้น จนสามารถไล่เพื่อนคนอื่นๆที่มีคะแนนดีกว่าได้ คำถามหนึ่งที่เขามักมาปรารภกับผมเสมอคืออ่านหนังสือแล้วไม่รู้เรื่อง ผมก็บอกว่าให้กลับไปอ่านอีก 5 เที่ยว รับรองว่าจะเข้าใจมากขึ้น เขาก็ทำตาม และมักจะอิดออดว่าเหนื่อยบ้าง หรือ อยากนอนบ้าง ผมก็จะบอกให้เขาไปวิ่งเล่นก่อน ให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย แล้วกลับมาอ่านต่อ พอถึงเวลาที่จะต้องขึ้นมัธยม เขาต้องการที่จะย้ายมาสาธิตปทุมวัน ผมก็อนุญาตแต่ผมก็ได้ถามเหตุผลก่อน ลูกบอกผมว่าเขาต้องการที่จะมาพบเด็กที่เรียนเก่งกว่าเพื่อเป็นการพัฒนาตัวเอง เพราะตอนอยู่ประถม 6 เขาได้เรียนดีขึ้นมาอยู่ในระดับ 1-5 ของชั้น จากการที่เขาย้ายมาปทุมวัน ทำให้เขาเห็นว่าเด็กจากโรงเรียนอื่นมีความสามารถเหนือเขาเยอะมาก จนเขาต้องขออนุญาตไปเรียนพิเศษที่ สยามสแควร์ แต่เนื่องจากเขาเล่นกีฬาด้วยเลยทำให้เขาต้องเลิกเรียนพิเศษ เพราะว่าเหนื่อยเกินไปที่ร่างกายจะรับได้ จากการที่เขาไม่ได้เรียนพิเศษทำให้เขาต้องอ่านหนังสือมากขึ้นเพื่อเป็นการชดเชย พอถึงเวลาที่จะขึ้นม. 4 ผมไม่อนุญาตให้เขาไปต่อที่โรงเรียนเตรียมอุดม พอพวกเพื่อนๆที่เรียนดี ออกไปเข้าเตรียม เขาก็เลยได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นที่ 2 ของชั้น

เมื่อเรียนจบม. 6 เขาก็ได้ไปสอบแข่งขันชิงทุนรัฐบาล และได้รับทุนไปเรียนจนจบปริญญาโท จากสังคมเด็กธรรมดา เขากลับมีเพื่อนๆที่เรียน รุ่นเดียวกันอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอาทิ Harvard University, Massachusetts Institute of Technology, Stanford University, Cornell University, Carnegie Mellon University, Columbia University etc.





หลังจากที่ได้อารัมภบทมาซะยืดยาว วิธีที่จะทำให้ลูกเรียนดี เรียนเก่ง มีความรับผิดชอบ และโตขึ้นมาเป็น ทรัพยากรที่ทรงคุณค่าของชาติ คือการที่เราในฐานะพ่อแม่ จะต้องทำให้ลูกมีความสุขในการเรียน ต้องคอยให้คำปรึกษา อย่าให้ลูกต้องไปปรึกษาเพื่อนก่อนที่จะมาหาเรา อย่าไปให้ลูกจมอยู่กับการเรียนมากเกินไป โดยเฉพาะการเรียนพิเศษ การเรียนเยอะๆจะไม่ช่วยให้ลูกเราฉลาดขึ้น แต่จะทำให้เขาเป็นคนที่ทำข้อสอบได้เท่านั้น ความสามารถในการประมวลผลจะไม่มี ที่เขาทำได้เพราะว่าอาจารย์ เอาโจทย์มาให้ทำก่อน เป็นการเอาเปรียบเพื่อนๆคนอื่น ผมขอเรียนให้เพื่อนทราบเลยนะว่าการทำคะแนนได้ดีมิใช่เป็นการบอกให้รู้ว่าลูกจะเติบโตขึ้นมาและประสบความสำเร็จ แล้วไว้เล่าต่อนะ ตอนนี้ขอตัวไปทำธุระก่อนครับ

ร้านทองจะได้อะไรจากการที่ TFEC จะเปิดให้มีการซื้อขายกระดาษ

ผมบังเอิญที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมประชุมกับทางตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ท่านเห็นว่าการที่ประเทศไทยต้องมีการนำเข้าทองคำแท่งเป็นจำนวนมาก ก่อให้เกิดการไหลออกของเงินตราต่างประเทศ มีผลทำให้ค่าเงินอ่อนตัวลง ท่านจึงได้ออกความเห็นไปทางตลาดหลักทรัพย์ ให้หาวิธีที่จะให้มีการลงทุนในตลาดซื้อขายล่วงหน้า การลงทุนในลักษณะนี้จะไม่มีการส่งมอบของกันจริง แต่จะเป็นการซื้อขายสัญญา ดังนั้นท่านรัฐมนตรีคลังก็ได้คาดว่าจะไม่มีการไหลออกของเงินตราต่างประเทศ

การเปิดให้มีการซื้อขายสัญญาล่วงหน้านั้น จะเป็นผลบวกให้กับบรรดาร้านทองที่มีการซื้อขายจำนวนมากๆ เพราะร้านทองเหล่านั้นไม่จำเป็นที่จะต้องควักกระเป๋าไปซื้อทองแท่งมาเก็บเพื่อป้องกันราคาทอง หากมีการผันผวน แต่หากมาดูที่ร้านทองต่างจังหวัดหรือร้านทองที่อยู่ตามชานเมือง เราจะเห็นว่าการเปิดให้มีการซื้อขายล่วงหน้านี้ ไม่มีการส่งผลกับร้านเหล่านั้นเลย แต่จะเป็นการกระตุ้นให้คนที่มีนิสัยชอบเสี่ยง เข้ามาทำการซื้อขาย หากเรามาคิดว่าจะส่งผลกับการนำเข้าทองแท่งหรือไม่ ผมขอตอบในที่นี้เลยว่า ไม่มีผล เพราะว่าคนไทยเคยชินกับการซื้อขายโดยที่รับมอบของกันที่ร้าน ใครจะอยากซื้อของโดยได้รับแต่กระดาษ

ผมขอวิเคราะห์นะว่าจะมีการซื้อขายกันน้อยมาก และที่จะมาทำการ trade กันจะมีแต่พวกร้านทอง แต่การซื้อทองแท่งก็จะยังมีอยู่ อันที่จริงน่าจะต้องให้มีการอธิบายให้ประชาชนทราบถึง ลักษณะของการซื้อขาย ซึ่งจะแตกต่างจากการซื้อขายทองแท่งในปัจจุบัน ในตลาด TFEC ทุกสัญญาจะมีอายุเสมอ หากเราไม่ exercise สิทธิ์ เมื่อสัญญา expired เราก็ต้องจ่ายเงินเต็มจำนวน และยังมีอีกหลายข้อมูลที่เราควรจะต้องทำความเข้าใจกับนักลงทุนก่อนที่จะปล่อยให้มีการ trade กันอย่างจริงจัง

ผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับตลาดซื้อขายล่วงหน้านั้นมีอยู่น้อยมาก ผมจึงอยาก encourage ให้เข้ามาแลกเปลี่ยนความรู้กันใน Blog นี้ การที่เราสามารถทำให้นักลงทุนมีความเข้าใจในตลาดล่วงหน้า จะเป็นการเตรียมตัวให้กับสังคมไทย ได้ก้าวเข้าสู่ศักราชใหม่ เฉกเช่นเดียวกับที่เมื่อ 10 ปีก่อนที่ได้มีการเปิดโรงงานสกัดทองด้วยวิธีที่ทันสมัย ปลอดภัยต่อสภาพแวดล้อม ทำให้สังคมไทยได้มีทองคำบริสุทธิ์ 999.9 มาใช้ในการผลิตทองรูปพรรณ

วันอังคารที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

ราคาทองแท่งที่ประกาศตามร้านทอง ทำไมถึงไม่เท่ากัน

ปัจจุบันราคาทองคำแท่งและราคาทองรูปพรรณรับคืนที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำ จะเป็นราคาที่ร้านทองจะต้องยึดเป็นมาตรฐาน และต้องเขียนอยู่ที่ด้านหน้าของร้านเพื่อให้ลูกค้าทราบ ราคาทองนี้อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้หลายครั้งในช่วงเวลาที่เปิดทำการ สมาคมค้าทองคำมีบริการแจ้งราคาทองเข้าไปที่โทรศัพท์มือถือทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลง แต่จะมีค่าบริการเล็กน้อย ท่านสามารถโทรฯไปติอต่อได้ที่ 02-623-2301

ที่น่าแปลกใจคือวันนี้ตั้งแต่เช้า สมาคมเปิดราคาอยู่ที่ 15250/15150 ต่อมาเวลาก่อนเที่ยง ปรับขึ้นเป็น 15300/15200 พอเวลาบ่าย สองโมงสิบห้า ก็ปรับขึ้นอีกเป็น 15350/15250 ที่น่าตกใจคือพอตอนเย็น ผมขับรถกลับบ้าน พบว่าที่ร้านทองแถวพระโขนง มีการเขียนราคาตอนเช้าอยู่จำนวนหนึ่งและมีที่เขียนราคาตอนสายอยู่จำนวนหนึ่ง ผมว่าร้านทองเหล่านั้นน่าที่จะมีการสอบเช็คราคาอย่างสม่ำเสมอนะ เพราะว่าหาก ท่านสรรพากร หรือ สคบเผอิญ เข้ามาตรวจที่ร้านทองนี้ ผมว่าท่านคงจะโดนปรับหนักพอควรเลยแหละ อาจจะโดนโทษจำคุกจากทาง สคบ ก็ได้ จึงอยากบอกมาให้ท่านทั้งหลายทำการเช็คราคากันนะครับ

วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การเลือกการลงทุนในชนิดทองคำแท่ง

ผมจะเล่าเรื่องการเลือกชนิดของทองคำแท่งที่ท่านจะลงทุน ทองคำแท่งที่เราสามารถจะเลือกลงทุนในปัจจุบัน มีอยู่เพียง 2 ชนิดคือ ทองคำแท่งที่ขายอยู่ในร้านทองย่านเยาวราช ชนิดนี้จะมีความบริสุทธิ์ที่ 96.5% และอีกชนิดคือทองคำแท่งที่ความบริสุทธิ์ 99.99% ชนิดนี้จะขายอยู่ในร้านทองเยาวราชและขายโดยผู้นำเข้าจากต่างประเทศ



ขอเริ่มที่ชนิดแรก ทองแท่ง 96.5% นี้ก็คือทองแท่งที่ขายอยู่ในท้องตลาด มีขนาดต่างๆ ตั้งแต่ 5-100 บาท ทองประเภทนี้จะไม่มีการคิดค่าบล็อก เวลาซื้อขายก็ต้องจ่ายเงินสดและรับของไปเลย ผู้ที่สามารถจะขายทองแท่งนี้ได้จะต้องไปจดแจ้งกับกรมสรรพากร เพราะว่าทองแท่งนี้ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ที่ชื่นชอบที่จะเริ่มลงทุน ควรเริ่มจากทองแท่งประเภทนี้ เนื่องจากสามารถเลือกซื้อตามกำลังทรัพย์ของตัวเอง ผมอยากฝากคำแนะนำกับท่านนักลงทุนมือใหม่ว่า การที่ท่านได้ฟังมาจากคนอื่น หรือการที่ท่านทราบมาจากเพื่อนๆนั้น ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของท่าน ท่านจะต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจที่จะเอาเงินเก็บของท่านออกมาซื้อทองแท่ง การที่ท่านจะเข้ามานั้น ท่านต้องทราบในเบื้องต้นก่อนว่า ราคาทองที่เรากำลังจะซื้อนั้น จะต้องไม่ใช่ราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะถ้าเราเข้าไปตอนที่มันอยู่ที่จุดสูงสุด โอกาศที่ท่านจะติดยอดดอย(ในภาษาของนักลงทุน) มีสูงมาก และโอกาศที่ท่านจะลงจากยอดดอยนั้น ท่านอาจจะต้องคอยอีกนานทีเดียว ในการรอคอยที่ยาวนานนั้น อาจจะทำให้ท่านหมดความอยากที่จะมาลงทุนในทองคำอีก หากท่านเข้าซื้อในราคาใดก็ตามที่มิใช่ราคาสูงสุด ผมขอบอกเลยครับว่า ท่านสบายใจได้ ราคาทองมักจะกลับมายังจุดสูงสุดในเวลาไม่นานนัก ราคาทองคำที่เคยสูงที่สุดในช่วงนี้คือ 15450 บาทต่อน้ำหนักทอง 1 บาท การลงทุนจากต่างจังหวัดนั้นอาจจะมีการวางแผนอีกแบบหนึ่งซึ่งผมจะขอเล่าในตอนหน้า

เมื่อท่านมีความชำนาญกับการซื้อขายทองแท่งแล้ว ผมขอแนะนำสินค้าอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ ทองคำแท่งชนิด 999.9 โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ก้อนละ 1 กิโลกรัม หรือเมื่อเทียบเป็นบาทจะมีน้ำหนักเท่ากับ 65.6 บาท ทองชนิดนี้ท่านนักลงทุนสามารถที่จะติดตามราคาจากทางทีวี ช่องที่มีข่าวธุรกิจอาทิ CNBC หรือ Bloomberg โดยที่เราต้องดูที่ราคา Spot Gold ทองประเภทนี้ จะมีการแจ้งที่ราคาสูงกว่า ทอง 96.5 อยู่ ประมาณ 3.5% แต่ก็ไม่แน่นอนเพราะว่าในบางสถานะการณ์ สมาคมค้าทองคำจะประกาศราคาที่ยึดเอาสภาวะตลาดเป็นหลัก ดังนั้นท่านอาจจะต้องจ่ายแพงกว่า แต่ว่าเวลาท่านขายท่านก็อาจจะได้ราคาที่ดีกว่าเหมือนกัน แต่สถานะการณ์แบบนี้มีไม่ค่อยบ่อยนักครับ

เมื่อมาดูความได้เปรียบ เสียเปรียบระหว่างสินค้า สอง ประเภทนี้ ผมก็ว่าแทบจะหาไม่ได้ เพราะว่าราคาของทั้งสองเดินไปในทิศทางเดียวกันตลอด ผมว่าท่านก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบนะครับ ทั้งสองแบบจะต้องมีการชำระเงินกันเต็มจำนวนเมื่อมีการส่งมอบทอง และการแปรสภาพให้เป็นเงินสดก็มีเท่าๆกัน เอาละท่านก็ได้ทราบความเป็นไปอย่างเจาะลึกแล้ว ขอให้ท่านล้วงกระเป๋าแล้วควักเงินออกไปซื้อทองคำแท่งได้แล้วครับ มัวแต่มานั่งอยู่ทำมะเขืออะไร

การลงทุนในทองคำแท่ง, ประเภทของลูกค้า/นักลงทุน

ผมจะพูดถึงเรื่องนักลงทุนในทองคำแท่ง ผมขอทำความเข้าใจกับท่านที่เข้ามาอ่านนะครับว่าสิ่งที่ผมกำลังจะกล่าวอ้างนั้น มาจากประสบการณ์ที่ผมได้ทำมาในระยะ 5 ปี ผมได้แนะนำให้เพื่อนที่เรียนกันมาตั้งแต่ชั้นประถมลงทุนในทองคำแท่ง โดยเพื่อนเหล่านี้มีความอึดอัดกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารที่อยู่ระหว่าง 2-3% ต่อปี ราคาที่เริ่มลงทุนขณะนั้นคือ บาทละ 7100 บาท จากนั้นเป็นต้นมา เพื่อนท่านนี้ ก็ได้กำไรประมาณ 15% ถึง 18% ต่อปีโดยขึ้นอยู่กับการสวิงของราคาทองคำในตลาดโลก และอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทกับดอลล่าห์อเมริกัน

การลงทุนมีความเสี่ยงไหม ผมขอเรียนให้ทราบตามตรงเลยนะครับ ไม่มีการลงทุนใดๆที่ไม่มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงในการลงทุนในทองคำแท่งนั้น เป็นความเสี่ยงจากการที่ท่านจะทำใจ หรือใจเย็นเพียงพอหรือไม่ ที่จะรอราคาทองให้กลับขึ้นมาใหม่ ในกรณีที่เข้ามาซื้อแล้วราคาทองกลับไหลลงไปเรื่อยๆ ผมขอเรียนให้ทราบเลยว่าการลงทุนนั้น จะมีแต่คนถามเสมอว่าราคาทองขณะนี้สมควรที่จะซื้อหรือยัง นักลงทุนประเภทนี้ ไม่มีความจริงใจที่จะมาลงทุน ผมคนหนึ่งที่จะไม่ยอมเสียเวลาพูดหรือแนะนำคนเหล่านี้ เพราะไม่ว่าราคาทองจะต่ำแค่ไหน คนเหล่านี้จะไม่มีทางที่จะเอาเงินมาลงทุน จนกว่าจะได้รับคำยืนยันจากเราว่าต้องเข้าแล้ว และอยางที่ท่านทราบ ไม่มีใครทราบราคาทองล่วงหน้าได้

นักลงทุนที่ผมรักและชื่นชอบโดยที่เขาเหล่านั้นมีความจริงใจที่จะมาลงทุน จะถามเราว่าเขาจะซื้อเลยโดยไม่ถามถึงราคาทองในขณะนั้น ผมเสียอีกที่จะเป็นคนคอยเตือนสติให้เขารอสัก 2-3 วันถ้าขณะนั้นราคาทองกำลังอยู่ในระดับสูงสุด จนกว่าราคาจะเริ่มลงและให้ลูกค้าเป็นคนที่สั่งซื้อ โดยมีข้อแม้ว่าหากผมโทรฯไปให้ขาย เขาจะต้องเชื่อและยอมขายทันที ลูกค้าประเภทนี้จะเป็นลูกค้าที่มีประสบการณ์ที่ดีกับผมมาในอดีต และพวกเขาทราบมาแล้วว่าผมมีประสบการณ์ที่มากกว่าพวกเขา หากผมสั่งขายไปแล้วราคาทองยังขึ้นอีก ซึ่งก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะว่าเราไม่สามารถที่จะทราบราคาทองล่วงหน้าได้อย่างแน่นอน แต่เราสามารถคาดคะเนเอาจากที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตได้

การที่เราให้ความรู้ในข้อมูลต่างๆที่เราได้รับมา จะทำให้ลูกค้าของเรามีความไว้ใจที่จะมาลงทุนกับเรา ผมว่าในฐานะพ่อค้าคนหนึ่ง เราไม่ควรเอาเปรียบลูกค้าที่จะมาซื้อทองโดยเก็บงำข้อมูลที่เราทราบ ในบางครั้ง ลูกค้าอาจจะได้ยินข่าวบางเรื่องที่เราไม่ทราบมาก่อน แต่โดยความบังเอิญที่พอการสนทนาเกิดขึ้นทำให้เขาพูดออกมา เป็นประโยชน์กับตัวของเราด้วย

ลูกค้าบางประเภทจะคิดว่าเขาฉลาดกว่าผม ทำให้เวลาที่ผมโทรศัพท์ไปบอกให้ขาย กลับบอกว่าเขากำลังอยากจะซื้ออยู่พอดี ลูกค้าประเภทนี้ ผมจะไม่โทรฯไปอีกเลยจนกว่าเขาจะโทรฯกลับมาถามว่าทำไม่ไม่แจ้งให้เขาทราบบ้าง ผมก็จะตอบว่า เวลาผมโทรฯไปคุณคิดตรงข้ามกับความคิดผม ผมจึงไม่กล้าที่จะแนะนำให้ทำตาม เป็นอย่างนี้ สองถึงสามครั้ง ลูกค้าคนนี้ก็จะกลับมาหาเพราะว่าไม่มีร้านทองร้านไหนที่จะให้คำแนะนำอย่างที่ผมมีให้หรอกครับ ร้านทองร้านอื่นเขาจะคิดว่าเสียเวลาที่จะไปแนะนำ เพราะว่าหากแนะนำผิด ก็จะถูกด่าและถูกต่อว่าตลอด

วันอาทิตย์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

มาอีกครั้ง

มาแล้ว

ขอต้อนรับเข้าสู่ "ร้านทองคุณไก่"

สวัสดีครับ!
เริ่มแรกต้องขอต้อนรับทุกท่านเข้าสู่ "ร้านทองคุณไก่" จากชื่อบล็อคพวกเราๆก็คงจะได้ข้อมูลบางอย่าง.. คือบล็อคต้องเป็นบล็อคเกี่ยวกับร้านทอง และ ตัวผมก็คงไม่ได้ชื่อเป็ดแน่ๆ
บล็อคของเราจะนำเสนอเกี่ยวกับข่าวสาร ความเป็นไปต่างๆของคนในวงการค้าทอง โดยมีตัวผมเองซึ่งใช้เวลาคลุกคลี คลุกคลานอยู่ในสังคมนี้เป็นเวลาร่วม สาม-สิบ-ปี!
ตัวผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบล็อคของผมจะทำประโยชน์ เป็นทั้งลำโพงกระจายข่าว เป็นทั้งกระบอกเสียงให้กับทุกๆท่าน..
ขอให้ช่วยติดตามตอนต่อไปของ ร้านทองคุณไก่ ต่อๆไปนะครับ