สวัสดีครับเพื่อนๆ ผมห่างหายหน้าไปนานมาก เนื่องจากหน้าที่การงานผูกมัดเวลา เอ้อ...คงจะไม่มีใครอยากมาฟังเรื่องนี้หรอกนะ เอาละมาเข้าเรื่องดีกว่า การลงทุนในทองคำ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ทุกคนคงต้องเห็นภาพทองคำแท่งสีเหลืองอร่ามลอยไปมา ซึ่งไม่ใช่ครับ ปีนี้เป็นปีพ.ศ. 2554 หาใช่่เมื่อ 20 ปีก่อน เดี๋ยวนี้มีการลงทุนทั้ง การซื้อขายสัญญาล่วงหน้าที่อยู่ในตลาดอนุพันธ์ แห่งประเทศไทย และในอนาคตอันใกล้นี้ จะมีนวัตกรรมใหม่อีกหนึ่ง ที่เป็นสินค้ามาให้นักลงทุนเลือก นั่นคือ Gold ETF (Gold Exchange Trade Fund)ชื่อนี้หากท่านเป็นนักลงทุนที่มีการติดตามข่าวเศรษฐกิจของโลก จะคงคุ้นหู แต่ผมจะขอถือโอกาสนี้มาอธิบายให้ท่านมีความกระจ่างมากขึ้นครับ
Gold ETF คือกองทุนที่ตั้งขึ้นในลักษณะ Passive Fund หมายความว่า เป็นกองทุนที่จัดตั้งขึ้น โดยมีจุดประสงค์ที่จะเอาเงินที่ได้ไปซื้อทองคำแท่งมาเก็บรักษา โดยจะมีผู้ดูแลที่แต่งตั้งโดยตลาดหลักทรัพย์ และได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่กำกับดูแลของรัฐ คำว่า Passive หมายความว่ากองทุนนี้มีจุดประสงค์ที่จะไม่มีการนำทองคำ ไปซื้อขายเพื่อทำกำไรแต่จะหากำไรจากการขยับของราคาทองคำเท่านั้น เริ่มต้นก็ต้องมีการจดทะเบียนเพื่อก่อตั้งกองทุนขึ้น และนำหน่วยลงทุนออกขาย เมื่อได้เงินมาแล้วก็นำไปจัดซื้อทองคำตามจุดประสงค์ แล้วนำทองคำนี้ไปฝากไว้กับ Custodian ที่ได้รับการแต่งตั้ง โดยจะมีการนำหน่วยลงทุนนี้ไปขึ้นทะเบียนไว้ที่ตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้นักลงทุนสามารถที่จะไปสั่งซื้อขาย ได้ตลอดเวลาที่ตลาดเปิดทำการ คราวนี้มาดูว่าตัว Gold ETF นี้ต่างจากหน่วยลงทุนที่มี บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมต่างๆเปิดขายอยู่ตอนนี้อย่างไร ท่านนักลงทุนที่เคยลงทุนในกองทุนอาทิ KGold หรือ Gold Fund ของ TMBAM หรือที่ใกล้เคียงเป็นต้น ท่านจะทราบว่า การซื้อหรือขายหน่วยลงทุนจะมีข้อจำกัดหลายๆด้าน เช่นต้องแจ้งความประสงค์ก่อนเวลา 15.30 น. และราคาของหน่วยลงทุนจะถูกคำนวณหลังจากที่ตลาดปิดแล้ว บางกองต้องรอข้ามวันเพื่อทราบราคา NAV ซึ่งพวกกองทุนเหล่านี้ไม่ได้เป็นการซื้อโดยตรง first hand แต่เป็นการซื้อหรือขายผ่าน บริษัทหลักทรัพย์กองทุนรวมในต่างประเทศอีกต่อหนึ่ง ทำให้นักลงทุนต้องจ่ายค่าบริหารจัดการ เป็นสองหรือสามต่อซึ่งมากกว่าที่จะไปซื้อด้วยตัวเอง แต่นั่นก็ไม่สามารถทำได้เพราะว่า ในประเทศไทยยังมีกฎหมาย ควบคุมการเคลื่อนไหวของเงินทุนที่จะไปลงในต่างประเทศที่มีธนาคารแห่งประเทศไทยดูแลอยู่
เรามาพิจารณาว่าทำไม Gold ETF ถึงมีคนนิยมมากมาย ก็เพราะว่าคนสนใจที่จะลงทุนในทองคำ แต่ไม่สามารถที่จะหาซื้อมาเก็บได้เอง ด้วยสาเหตุของการที่มีต้นทุนในการซื้อ การจัดเก็บ อีกทั้งการหาซื้อก็ต้องซื้อในปริมาณที่มากๆเพื่อให้ได้ราคาที่ใกล้เคียงกับราคาตลาดโลกเป็นต้น อีกทั้งราคาของหน่วยลงทุนมีราคาไม่สูงมากนัก ทำให้นักลงทุนทุกคนสามารถที่จะซื้อมาเก็บได้ แต่ที่นักลงทุนจะเข้าไปทำการซื้อขายนี้ เป็น ตลาด secondary โดยที่ในตลาด primary นั้นจะมีตัวละครอยู่แค่2-3 คนเท่านั้น คือ ตัวกองทุน PD (Participating Dealer) และ Market Maker โดยที่ทั้ง 3 ฝ่ายนี้จะมีหน้าที่ต่างกันและทำงานโดยเอื้อซึ่งกันและกัน โดยที่นักลงทุนจะทำการซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดผ่าน PD เมื่อมีการซื้อหน่วยลงทุนในตลาดมากกว่าการขาย กองทุนก็จะออกหน่วยลงทุนแล้วนำเงินไปซื้อทองคำ แต่หากเป็นในทางตรงกันข้าม มีการขายมากกว่าการซื้อ ก็จะมีการนำหน่วยลงทุนไปคืนให้กองทุน ทำให้กองทุนจะต้องนำทองคำออกขายเพื่อคืนเงินให้นักลงทุน เห็นไหมครับ ลักษณะการคิดไม่ยากอย่างที่เราเข้าใจ เพียงแต่เราทำการซื้อขายทองผ่านกองทุนโดยมีตลาดหลักทรัพย์เป็นคนกลาง คอยป้องกันไม่ให้เกิดการผิดสัญญา เวลาที่มีคนซื้อขาเดียวมากๆ หรือมีคนขายขาเดียวมากๆ การชำระราคาก็มีการชำระผ่าน TCH (Thailand Clearing House) ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งของตลาดหลักทรัพย์ เราจึงตัดปัญหาการรับเช็คเวลาเราไปส่งมอบทองให้ร้านทองได้เลย
ปัจจุบัน ยังไม่มีใครตั้งกองทุน Gold ETF ในประเทศ แต่มีการตั้งกองทุนเพื่อที่จะนำเงินทุนไปซื้อหน่วยลงทุนในต่างประเทศ เอ! แล้วมันต่างอะไรกับที่มีกองทุนทองของบลจ.ต่างๆ ก็ตรงที่นักลงทุนสามารถสั่งซื้อหรือสั่งขายได้ในลักษณะ real time อย่างไรละครับ เช่นในทางทฤษฎี ราคาของหน่วยลงทุนจะต้องคล้องจองไปกับราคาของทองคำโลก ดังนั้นเมื่อราคาทองโลกขึ้น ราคาของหน่วยลงทุนก็ต้องขึ้นไปตามสัดส่วน และเวลาราคาทองโลกลง ราคาของหน่วยลงทุนก็ต้องลงเช่นกัน ดังนี้เราสามารถขจัดปัญหาการกั๊กราคาของสมาคมค้าทองคำได้
เห็นไหมครับ น่าสนุกและน่าตื่นเต้นดีออก ที่ในไม่ช้า เราจะมีเครื่องมือมาช่วยให้พวกเรานักลงทุน สามารถแสวงหาความมั่งคั่งได้อีก 1 ตัวแล้ว และเป็นการลงทุนที่ถูกต้องตามกฎหมาย และมีหน่วยงานราชการคอยควบคุมผลประโยชน์ให้ท่านอีกครับ
ในแวดวงของการลงทุนเรื่องนี้ ยังมีคำศัพท์ที่พวกเราควรต้องรู้ไว้คือ Redeem และ Create โดยคำแรก หมายความถึง มีผู้ลงทุนต้องการที่จะขายหน่วยลงทุนเป็นจำนวนมาก ทาง PD (Participating Dealer)จะไปทำการติดต่อกับทางกองทุน เพื่อทำการขอ Redeem คือเอาหน่วยลงทุนไปคืนเขาแล้วรับเงินคืนกลับมา เพื่อนำส่งต่อให้นักลงทุน ส่วน คำที่สองคือในกรณีที่มีนักลงทุนจำนวนมากมีความต้องการซื้อหน่วยลงทุน ทาง PD ก็จะไปติดต่อกับกองทุนเพื่อให้เขาออกหน่วยลงทุนออกมาในจำนวนที่ต้องการ แล้วทาง PD ก็จะจ่ายเงินให้กองทุนเป็นค่าหน่วยลงทุน แล้วนำหน่วยลงทุนนี้มามอบให้กับนักลงทุน
ดูสิครับ ง่ายๆและเป็นธรรมดาเสียเหลือเกิน แต่นี่เป็นการลงทุนที่ ร้อนแรง ที่สุดในทศศตวรรษนี้ เนื่องจากราคาทองคำของโลก มีการเปลี่ยนแปลงหรือแกว่งตัวมาก ทำให้นักลงทุนสามารถหาจังหวะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำครับ สุดท้ายนี้ก็ขอให้ท่านโชคดี มีกำไรให้เก็บทุกวันครับ
วันพฤหัสบดีที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)