วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ทองแท่งแบบที่ขายปลีกกันอยู่ในโลก


วันนี้อยากขอเล่าเรื่องเกี่ยวกับทองคำแท่งที่มีการขายอยู่ในโลก ทั้งทางตะวันตก และทางตะวันออก โดยใจความสำคัญที่อยากจะสื่อให้ทุกท่านที่ได้เข้ามาอ่าน คือลักษณะการขายของบรรดา dealer ต่างทั่วโลก ภาพแรกที่ผมเอามาให้ชมนั้น คือทองแท่งที่มีน้ำหนัก 1 ออนซ์ ออกโดยบริษัท เครดิตสวิส แต่เขาไม่ได้ขายในราคาทองที่มีการประกาศอยู่ในตลาดโลกหรอกนะครับ เขาจะต้องมีการบวก พรีเมี่ยม หรือเรียกอีกนัยหนึ่งว่า ค่าบล็อก การที่ประเทศไทย มีการขายทองแท่ง โดยไม่มีการคิดค่าการตลาด ทำให้ผลกำไรที่ร้านทองต่างๆควรจะได้ มีจำนวนน้อยมาก ซึ่งร้านทองหลายๆร้านเห็นว่าการขายทองแท่งกลายเป็นภาระ แทนที่จะเป็นการสร้างผลกำไรให้กับธุระกิจ ทองแท่งในรูปแบบอื่นที่มีการขาย และสร้างผลกำไรเป็นกอบเป็นกำในตลาดสากล มีในรูปของเหรียญที่มีสัญญลักษณ์ของประเทศต่างๆ แต่เป็นเหรียญที่ออกโดยหน่วยงานของรัฐ และราคาหน้าเหรียญมีราคาต่ำ เพื่อที่จะป้องกันมิให้ผู้ซื้อ ไปขึ้นเงินกับธนาคารของรัฐนั้นๆ
ผมอยากให้มีการสร้างเครือข่าย ของผู้แทนทางการค้า อย่างที่บริษัททองต่างชาติ ได้กระทำอยู่ในเวลานี้ คือท่านร้านทองตามต่างจังหวัด ทำตัวเป็นผู้แทนที่ไดรับอนุญาต จากร้านใหญ่ในกรุงเทพ ให้เป็นผู้แทนที่สามารถรับคำสั่งซื้อ หรือ คำสั่งขายทองคำแท่งในต่างจังหวัดได้ ผู้ที่อยากลงทุนในทองคำแท่งหรือในรูปแบบของเหรียญทองคำที่มี การผลิตในจำนวนจำกัด หรือที่เขาเรียกกันว่า Limited Editions อย่างเหรียญแพนด้าของประเทศจีน หรือ เหรียญอีเกิ้ล ของอเมริกา เขาผลิตออกมาจำนวนจำกัด
สินค้าเหล่านี้ ร้านทองต่างๆสามารถที่จะนำมาจำหน่ายให้ลูกค้า และแนวทางการลงทุนในอนาคตของประเทศไทย คงจะมีการเคลื่อนที่ไปในทิศทางสากล เพราะว่าการที่ร้านทองนำทองคำแท่งมาขายในลักษณะที่ทำอยู่นี้ ไม่ได้มีการเพิ่มคุณค่าของทองคำเลย ลักษณะของตลาดก็จะเป็นแบบ ปลาใหญ่กินปลาเล็ก หรือแบบที่พวกสายป่านยาวๆจะอยู่ได้นานที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่าจะมีกำไรมากที่สุดนะครับ แต่จะเป็นผู้ที่ตายช้าที่สุด ร้านทองควรจะต้องเริ่มคำนึงถึงการที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับทองคำ มิใช่ไปหาซื้อมาก้อนใหญ่ๆก้อนหนึ่งแล้วมาหั่น ซอยขายเป็นชิ้นเล็กๆ โดยที่ไม่ได้ไปคิดเพิ่มราคาให้เพียงพอแก่ค่าดำเนินการต่างๆ

ผมว่าเราน่าที่จะมาพัฒนาอุตสาหกรรมทองของประเทศไทย ให้เจริญก้าวหน้าให้ทัดเทียมอาณารยะประเทศต่าง ในโลกโดยการเริ่มเดินตามรอยเท้าของประเทศอื่นๆได้แล้ว

ไม่มีความคิดเห็น: