วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การลงทุนในทองคำแท่ง, ประเภทของลูกค้า/นักลงทุน

ผมจะพูดถึงเรื่องนักลงทุนในทองคำแท่ง ผมขอทำความเข้าใจกับท่านที่เข้ามาอ่านนะครับว่าสิ่งที่ผมกำลังจะกล่าวอ้างนั้น มาจากประสบการณ์ที่ผมได้ทำมาในระยะ 5 ปี ผมได้แนะนำให้เพื่อนที่เรียนกันมาตั้งแต่ชั้นประถมลงทุนในทองคำแท่ง โดยเพื่อนเหล่านี้มีความอึดอัดกับดอกเบี้ยเงินฝากธนาคารที่อยู่ระหว่าง 2-3% ต่อปี ราคาที่เริ่มลงทุนขณะนั้นคือ บาทละ 7100 บาท จากนั้นเป็นต้นมา เพื่อนท่านนี้ ก็ได้กำไรประมาณ 15% ถึง 18% ต่อปีโดยขึ้นอยู่กับการสวิงของราคาทองคำในตลาดโลก และอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทกับดอลล่าห์อเมริกัน

การลงทุนมีความเสี่ยงไหม ผมขอเรียนให้ทราบตามตรงเลยนะครับ ไม่มีการลงทุนใดๆที่ไม่มีความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงในการลงทุนในทองคำแท่งนั้น เป็นความเสี่ยงจากการที่ท่านจะทำใจ หรือใจเย็นเพียงพอหรือไม่ ที่จะรอราคาทองให้กลับขึ้นมาใหม่ ในกรณีที่เข้ามาซื้อแล้วราคาทองกลับไหลลงไปเรื่อยๆ ผมขอเรียนให้ทราบเลยว่าการลงทุนนั้น จะมีแต่คนถามเสมอว่าราคาทองขณะนี้สมควรที่จะซื้อหรือยัง นักลงทุนประเภทนี้ ไม่มีความจริงใจที่จะมาลงทุน ผมคนหนึ่งที่จะไม่ยอมเสียเวลาพูดหรือแนะนำคนเหล่านี้ เพราะไม่ว่าราคาทองจะต่ำแค่ไหน คนเหล่านี้จะไม่มีทางที่จะเอาเงินมาลงทุน จนกว่าจะได้รับคำยืนยันจากเราว่าต้องเข้าแล้ว และอยางที่ท่านทราบ ไม่มีใครทราบราคาทองล่วงหน้าได้

นักลงทุนที่ผมรักและชื่นชอบโดยที่เขาเหล่านั้นมีความจริงใจที่จะมาลงทุน จะถามเราว่าเขาจะซื้อเลยโดยไม่ถามถึงราคาทองในขณะนั้น ผมเสียอีกที่จะเป็นคนคอยเตือนสติให้เขารอสัก 2-3 วันถ้าขณะนั้นราคาทองกำลังอยู่ในระดับสูงสุด จนกว่าราคาจะเริ่มลงและให้ลูกค้าเป็นคนที่สั่งซื้อ โดยมีข้อแม้ว่าหากผมโทรฯไปให้ขาย เขาจะต้องเชื่อและยอมขายทันที ลูกค้าประเภทนี้จะเป็นลูกค้าที่มีประสบการณ์ที่ดีกับผมมาในอดีต และพวกเขาทราบมาแล้วว่าผมมีประสบการณ์ที่มากกว่าพวกเขา หากผมสั่งขายไปแล้วราคาทองยังขึ้นอีก ซึ่งก็อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ เพราะว่าเราไม่สามารถที่จะทราบราคาทองล่วงหน้าได้อย่างแน่นอน แต่เราสามารถคาดคะเนเอาจากที่เคยเกิดขึ้นมาในอดีตได้

การที่เราให้ความรู้ในข้อมูลต่างๆที่เราได้รับมา จะทำให้ลูกค้าของเรามีความไว้ใจที่จะมาลงทุนกับเรา ผมว่าในฐานะพ่อค้าคนหนึ่ง เราไม่ควรเอาเปรียบลูกค้าที่จะมาซื้อทองโดยเก็บงำข้อมูลที่เราทราบ ในบางครั้ง ลูกค้าอาจจะได้ยินข่าวบางเรื่องที่เราไม่ทราบมาก่อน แต่โดยความบังเอิญที่พอการสนทนาเกิดขึ้นทำให้เขาพูดออกมา เป็นประโยชน์กับตัวของเราด้วย

ลูกค้าบางประเภทจะคิดว่าเขาฉลาดกว่าผม ทำให้เวลาที่ผมโทรศัพท์ไปบอกให้ขาย กลับบอกว่าเขากำลังอยากจะซื้ออยู่พอดี ลูกค้าประเภทนี้ ผมจะไม่โทรฯไปอีกเลยจนกว่าเขาจะโทรฯกลับมาถามว่าทำไม่ไม่แจ้งให้เขาทราบบ้าง ผมก็จะตอบว่า เวลาผมโทรฯไปคุณคิดตรงข้ามกับความคิดผม ผมจึงไม่กล้าที่จะแนะนำให้ทำตาม เป็นอย่างนี้ สองถึงสามครั้ง ลูกค้าคนนี้ก็จะกลับมาหาเพราะว่าไม่มีร้านทองร้านไหนที่จะให้คำแนะนำอย่างที่ผมมีให้หรอกครับ ร้านทองร้านอื่นเขาจะคิดว่าเสียเวลาที่จะไปแนะนำ เพราะว่าหากแนะนำผิด ก็จะถูกด่าและถูกต่อว่าตลอด

ไม่มีความคิดเห็น: