วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

การเลือกการลงทุนในชนิดทองคำแท่ง

ผมจะเล่าเรื่องการเลือกชนิดของทองคำแท่งที่ท่านจะลงทุน ทองคำแท่งที่เราสามารถจะเลือกลงทุนในปัจจุบัน มีอยู่เพียง 2 ชนิดคือ ทองคำแท่งที่ขายอยู่ในร้านทองย่านเยาวราช ชนิดนี้จะมีความบริสุทธิ์ที่ 96.5% และอีกชนิดคือทองคำแท่งที่ความบริสุทธิ์ 99.99% ชนิดนี้จะขายอยู่ในร้านทองเยาวราชและขายโดยผู้นำเข้าจากต่างประเทศ



ขอเริ่มที่ชนิดแรก ทองแท่ง 96.5% นี้ก็คือทองแท่งที่ขายอยู่ในท้องตลาด มีขนาดต่างๆ ตั้งแต่ 5-100 บาท ทองประเภทนี้จะไม่มีการคิดค่าบล็อก เวลาซื้อขายก็ต้องจ่ายเงินสดและรับของไปเลย ผู้ที่สามารถจะขายทองแท่งนี้ได้จะต้องไปจดแจ้งกับกรมสรรพากร เพราะว่าทองแท่งนี้ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ผู้ที่ชื่นชอบที่จะเริ่มลงทุน ควรเริ่มจากทองแท่งประเภทนี้ เนื่องจากสามารถเลือกซื้อตามกำลังทรัพย์ของตัวเอง ผมอยากฝากคำแนะนำกับท่านนักลงทุนมือใหม่ว่า การที่ท่านได้ฟังมาจากคนอื่น หรือการที่ท่านทราบมาจากเพื่อนๆนั้น ไม่มีผลต่อการตัดสินใจของท่าน ท่านจะต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจที่จะเอาเงินเก็บของท่านออกมาซื้อทองแท่ง การที่ท่านจะเข้ามานั้น ท่านต้องทราบในเบื้องต้นก่อนว่า ราคาทองที่เรากำลังจะซื้อนั้น จะต้องไม่ใช่ราคาที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เพราะถ้าเราเข้าไปตอนที่มันอยู่ที่จุดสูงสุด โอกาศที่ท่านจะติดยอดดอย(ในภาษาของนักลงทุน) มีสูงมาก และโอกาศที่ท่านจะลงจากยอดดอยนั้น ท่านอาจจะต้องคอยอีกนานทีเดียว ในการรอคอยที่ยาวนานนั้น อาจจะทำให้ท่านหมดความอยากที่จะมาลงทุนในทองคำอีก หากท่านเข้าซื้อในราคาใดก็ตามที่มิใช่ราคาสูงสุด ผมขอบอกเลยครับว่า ท่านสบายใจได้ ราคาทองมักจะกลับมายังจุดสูงสุดในเวลาไม่นานนัก ราคาทองคำที่เคยสูงที่สุดในช่วงนี้คือ 15450 บาทต่อน้ำหนักทอง 1 บาท การลงทุนจากต่างจังหวัดนั้นอาจจะมีการวางแผนอีกแบบหนึ่งซึ่งผมจะขอเล่าในตอนหน้า

เมื่อท่านมีความชำนาญกับการซื้อขายทองแท่งแล้ว ผมขอแนะนำสินค้าอีกชนิดหนึ่ง นั่นก็คือ ทองคำแท่งชนิด 999.9 โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ก้อนละ 1 กิโลกรัม หรือเมื่อเทียบเป็นบาทจะมีน้ำหนักเท่ากับ 65.6 บาท ทองชนิดนี้ท่านนักลงทุนสามารถที่จะติดตามราคาจากทางทีวี ช่องที่มีข่าวธุรกิจอาทิ CNBC หรือ Bloomberg โดยที่เราต้องดูที่ราคา Spot Gold ทองประเภทนี้ จะมีการแจ้งที่ราคาสูงกว่า ทอง 96.5 อยู่ ประมาณ 3.5% แต่ก็ไม่แน่นอนเพราะว่าในบางสถานะการณ์ สมาคมค้าทองคำจะประกาศราคาที่ยึดเอาสภาวะตลาดเป็นหลัก ดังนั้นท่านอาจจะต้องจ่ายแพงกว่า แต่ว่าเวลาท่านขายท่านก็อาจจะได้ราคาที่ดีกว่าเหมือนกัน แต่สถานะการณ์แบบนี้มีไม่ค่อยบ่อยนักครับ

เมื่อมาดูความได้เปรียบ เสียเปรียบระหว่างสินค้า สอง ประเภทนี้ ผมก็ว่าแทบจะหาไม่ได้ เพราะว่าราคาของทั้งสองเดินไปในทิศทางเดียวกันตลอด ผมว่าท่านก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบนะครับ ทั้งสองแบบจะต้องมีการชำระเงินกันเต็มจำนวนเมื่อมีการส่งมอบทอง และการแปรสภาพให้เป็นเงินสดก็มีเท่าๆกัน เอาละท่านก็ได้ทราบความเป็นไปอย่างเจาะลึกแล้ว ขอให้ท่านล้วงกระเป๋าแล้วควักเงินออกไปซื้อทองคำแท่งได้แล้วครับ มัวแต่มานั่งอยู่ทำมะเขืออะไร

ไม่มีความคิดเห็น: