วันจันทร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551

เรื่องเกี่ยวกับ Boarding School ที่อเมริกาครับ

โรงเรียนที่ผมจะเล่าให้เพื่อนๆฟังคือโรงเรียนที่เราเรียกว่า Boarding School หรือที่แปลตรงตัวว่า โรงเรียนกินนอนครับ แต่อีกชื่อหนึ่งที่เด็กนิยมเรียกกันคือ Prep School เป็นเสมือนโรงเรียนเตรียมอุดมของเมืองไทย แต่ที่นี่เขามีประวัติที่ยาวนานกว่ามาก และมหาวิทยาลัยดังๆในสหรัฐ จะให้เครดิตกับโรงเรียนเหล่านี้ คือหากเด็กสามารถที่จะเรียนได้ดี มีกิจกรรมเยี่ยม และได้การสนับสนุนจากอาจารย์แล้ว โอกาศที่จะได้รับเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย top ten มีสูงมาก ทำไมผมถึงทราบหรือครับ ก็เพราะว่าลูกชายคนโต เขาสอบได้ทุนรัฐบาลแล้วทาง ก.พ.ก็บังคับเด็กทุนทุกคนให้ไปเรียนซ้ำชั้น ม.6 อีกหนึ่งปี แรกๆบรรดาเด็กๆก็มีปฏิกิริยากันทุกคน เพราะไม่มีใครอยากเรียนซ้ำชั้น แต่พอทราบถึงเหตุผล ทุกคนก็ยอมแล้วแต่ละคนก็ถูกส่งไปอยู่ตามโรงเรียน Boarding School แห่งละ 1 หรือ 2 คนเท่านั้น โรงเรียนที่ได้รับยกย่องว่าเป็นโรงเรียนที่ดีที่สุดคือ
1 Phillip Academy, Andover
2 Choate Rosemary Hall
3 Phillip Exeter
4 Deerfield Academy

เอาแค่พอหอมปากหอมคอก่อนนะครับ จริงๆแล้วผมมี รายชื่ออยู่เป็นจำนวนมาก แต่โรงเรียนที่ผมเอ่ยชื่อมานี้ ล้วนแล้วแต่เป็นโรงเรียนที่บรรดาเด็กที่ได้ทุนเล่าเรียนหลวง หรือที่เราเรียกกันว่า ทุนคิงส์ จะมีเด็กจำนวน 9 คน คือจากแผนกวิทย์ 5 คน และจากแผนกศืลป์ 4 คน แหมแต่ขอออกตัวก่อนว่าลูกของผมไม่ได้เป็นหนึ่งในนี้หรอก โรงเรียนเหล่านี้ การที่จะได้เข้าไปเรียนนั้น ยากมาก เพราะว่าเขามีจำนวนจำกัด และสำหรับเด็กที่มีความฝันที่จะเข้าเรียนในมหาวืทยาลัย Harvard หรือ MIT จะต้องพยายามเต็มที่ที่จะเข้าไปเรียนในโรงเรียนเหล่านี้ ให้ได้ เพราะเหมือนกับการการันตีเลยว่า เมื่อจบก็มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะเข้าไปเรียนในสถาบันชั้นนำเหล่านั้นได้ เรื่องนี้ผมไม่เคยรู้มาก่อนจนกระทั่งลูกชายเล่าให้ฟัง และการรับเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำนี้ ฝ่าย Admission จะดูจากผลการเรียนของเด็กที่มาจากโรงเรียนเหล่านี้ ว่าเรียนได้ดีหรือไม่ หากเป็นเด็กที่ทำได้ดี มีการเรียนดี มหาวิทยาลัยก็จะให้ป็นลักษณะโควต้าแก่โรงเรียนนั้นๆ ที่ลูกผมไปเรียนนั้นชื่อ The Hill School อยู่ที่เมือง Pottstown รัฐ เพนซิลเวเนีย ก่อนที่ลูกผมจะไปเรียน ไม่เคยมีประวัติว่า มหาวิทยาลัย Stanford ที่เมือง San Francisco จะรับเด็กจากที่นี่ แต่เนื่องจากลูกทำคะแนนในวิชา Physics ได้ดีมากๆ ทางมหาวิทยาลัยจึงรับ และหลังจากนั้น ก็จะมีเด็กจากที่นี่ ไปที่ Stanford University ทุกปีๆละ2 ถึง 3 คน เช่นเดียวกับที่ โรงเรียน Phillip Academy ที่จะมีเด็กจำนวนมากที่สามารถเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย Harvard และ MIT
ดังนั้นการหาโรงเรียน Boarding School ให้ลูกของคุณจะต้องมีการทำวิจัยพอควร เพราะว่าประวัติของโรงเรียนจะมีผลต่อการที่ลูกของคุณจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยในใจได้หรือไม่ คราวนี้มาถึงคำถามที่ว่า ลูกของคุณจะเรียนไหวหรือไม่ ผมขอบอกเลยครับว่าการที่ลูกของผมไปเรียนอยู่ในปีสุดท้ายนั้น เป็นการโหดร้ายพอควร แต่ถ้าลูกไปตั้งแต่ เกรด 9 จะเรียนสบายกว่าเพราะว่ามีเวลาปรับตัว หากลูกของคุณมีความฝันที่จะเข้ามหาวิทยาลัยดังๆแล้วไซร้ เขาคงต้องพยายามขวนขวายอย่างที่สุดที่จะเรียนให้ดี การเรียนในBoarding School นั้นไม่เรียนหนักเหมือนที่เด็กไทยเราเรียนอยู่ในขณะนี้ ตอนที่ลูกไปนั้น การเรียนเป็นแบบ ปีละ 4 เทอม และในแต่ละเทอมนั้น เรียนแค่ 5วิชาโดยมีวิชาหลักอยู่แค่ 4 วิชา ส่วนอีกหนึ่งวิชา เป็นวิชาเลือก อาทิเช่น วิชา Drama หรือ วิชา Pottering หรือ เป็นวิชากีฬาต่างๆแล้วแต่จะเลือกเรียน
การเรียนในแต่ละวันนั้นก็เริ่มตั้งแต่ตื่นนอนแล้วรับประทานอาหารเช้า หลังจากนั้นก็เข้าเรียนจนถึง 11นาฬิกา ก็จะมีการปล่อยให้พักผ่อนก่อนรับประทานอาหารกลางวัน หลังอาหารกลางวันก็มีการเข้าห้องสมุด พอตอนบ่าย 2 โมงทุกคนจะต้องออกมาในสนามเพื่อที่จะต้องออกอำลังและเล่นกีฬา ตามที่ตัวถนัด ผมเคยได้รับจดหมายเตือนจากโรงเรียนว่า ลูกถูกหักคะแนนความประพฤติ ผมก็ตกใจว่าเอลูกเราไปทำอะไรผิด เลยโทรไปถามผลคือลูกบอกว่าเขาอ่านตำราไม่ทัน เลยไม่อยากลงมาเล่นกีฬา และหลบอยู่บนห้องสมุด เลยถูกเช็คชื่อ และตัดคะแนน ผมก็รู้สึกงงว่าเรื่องแค่นี้ ไม่น่าที่จะมาตัดคะแนนกันเลย ผมเลยส่งเมลไปถามผู้อำนวยการ ผลเขาตอบว่า ไม่อยากให้เด็กของเขาเอาแต่เรียน ทุกคนต้องออกมารับอากาศบริสุทธิ์และได้ยืดเส้นยืดสาย และเรื่องลูกของผมนั้นไม่ซีเรียส เพราะว่าเขารู้ว่าลูกเรียนดี เอาละวันนี้พอแค่นี้ก่อน มีเรื่องอีกเยอะครับ สนุกๆด้วยซิ

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ขอบคุณค่ะ สำหรับบทความ